เป็นเริมบ่อยมาก เกิดจากอะไร?

เริมเกิดจากการติดเชื้อของไวรัส Herpes Simplex Virus (HSV) ซึ่งยังมีหลายคนเข้าใจผิดๆว่าโรคเริม เกิดได้จากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีอีกหลายปัจจัยที่ส่งผลทำให้เกิดการติดเชื้อได้ เช่น

- การได้สัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรง

- การรับประทานอาหารร่วมกับผู้ป่วยที่เป็นโรค

- ใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วย

- สัมผัสสิ่งของต่างๆในที่สาธารณะ ที่ผู้ป่วยเคยสัมผัส

- มีเพศสัมพันธ์กับผู้ป่วย

เมื่อติดเชื้อเริมแล้ว ไวรัสจะฝังตัวในปมประสาท และจะกำเริบทุกครั้งที่ภูมิตก ดังนั้นผู้ป่วยจึงอาจเป็นเริมบ่อยๆได้จากการติดเชื้อครั้งเดียว

แต่เริมหายขาดได้ค่ะ หากร่างกายมีภูมิคุ้มกันแข็งแรงพอ จะช่วยให้สามารถกำจัดเชื้อไวรัสออกไปได้

ในเบื้องต้นเมื่อติดเชื้อไวรัส HSV แล้ว อาการที่แสดงเริ่มต้นคือ เป็นไข้ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตัว ประมาณ 1-3 วัน และหลังจากนั้นจะเริ่มค่อยๆมีตุ่มพองกระจายตัวออกเป็นกลุ่ม ในบริเวณผิวหนังที่บอบบาง อย่างเช่น ริมฝีปาก หรืออวัยเพศ

จากนั้นภายใน 2 วันตุ่มพองจะกลายเป็นตุ่มน้ำคล้ายๆกับตุ่มของอีสุกอีใส ซึ่งอาการของเริมจะกำเริบอยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ และจะค่อยๆหายไปเอง แต่จะไม่หายขาด เพราะว่าเชื้อไวรัส HSV จะยังฝังตัวอยู่ และอาจจะเห่อขึ้นกลับมาได้อีกถ้าภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอ หรือรับประทานอาหารแสลงเข้าไป

ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027