หมอเชื่อว่าอาการปวดหัว เวียนหัว ไมเกรน คงจะเป็นโรคที่กวนใจใครๆหลายๆคน โดยเฉพาะผู้หญิง และ คนวัยทำงานเลยใช่ไหมคะ แม้แต่ตัวหมอเองก็มีอาการแบบนี้เช่นกันค่ะ โดยหากเป็นไมเกรน มักจะมีอาการปวดหัวบ่อยๆ ปวดข้างเดียว ปวดมากๆ ปวดนานหลายวัน และเวียนหัว กระทบต่อการใช้ชิวิตค่อนข้างมากเลยค่ะ
เมื่อมีอาการเอง หมอจึงได้ลองศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำมาดูแลสุขภาพร่วมด้วย และมีโอกาสได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับสมอง และ งานวิจัยจากต่างประเทศ จนทราบว่าอาการปวดหัว เวียนหัว ไมเกรน ที่เป็นบ่อยๆ เป็นเรื้อรัง มีผลมาจากอาการภูมิแพ้สมอง โดยสมองของเราก็เป็นภูมิแพ้ได้ค่ะ
ภูมิแพ้สมอง เกิดจากการที่สมองมีของเสียหรือขยะในสมองมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นจากความเครียด การทำงานหนัก ใช้สมองมากเกินไป จะก่อให้เกิดของเสียหรือขยะในสมอง
เมื่อของเสียหรือขยะในสมองมากเกินไป จะทำให้มีอาการไวต่อสิ่งเร้าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแสง เสียง กลิ่น การสั่นสะเทือน ความหิว เมื่อสมองไวต่อสิ่งเร้าเหล่านี้ การตอบสนองก็จะมากกว่าปกติ จะเกิดอาการปวดหัว เวียนหัว ไมเกรนง่ายและบ่อยกว่าคนทั่วไป
แต่อาการเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ หากเราทำความเข้าใจสมองมากยิ่งขึ้น การที่สมองแสดงออกด้วยอาการปวดหัว เวียนหัว ไมเกรน เป็นสัญญาณเตือนให้ร่างกายพักผ่อน เพื่อไม่ให้ร่างกายเสื่อมโทรมจากการใช้งานมากเกินไป บางคนทำงานหนักมากแทบไม่ได้พัก หากสมองไม่ส่งสัญญาณเตือน เราก็จะทำงานไปเรื่อยๆ หักโหม ไม่พัก จนเกิดผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวค่ะ
ในส่วนของการพักผ่อนหรือการนอน ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญสำหรับร่างกายของเราเลยนะคะ เพราะช่วงที่เรานอนหลับสนิท หรือ หลับฝันดี จะเป็นช่วงที่สมองทำการกำจัดของเสียและขยะในสมองได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่สุด เมื่อของเสียและขยะในสมองน้อยลง สมองจะปลอดโปร่งมากขึ้น อาการปวดหัว เวียนหัว ไมเกรน ก็จะค่อยๆดีขึ้นและหายไปหายไป
วันนี้หมอมีเคล็ดลับในการดูแลสมอง และ รักษาอาการปวดหัว เวียนหัว ไมเกรน มาฝากทุกๆท่านด้วยนะคะ หากใครมีอาการอยู่ สามารถนำไปทดลองทำตามได้เลยค่ะ
1. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เข้านอนก่อน 4 ทุ่ม ไม่เกิน 5 ทุ่ม โดยปกติระบบร่างกายจะมีการซ่อมแซมตัวเองและกำจัดของเสียในช่วง 4 ทุ่ม ถึง ตี 2 นับเป็นช่วงเวลาทองของร่างกายหากนอนเกินช่วงเวลาจะทำให้ร่างกายมีเวลาในการซ่อมแซมตัวเองได้น้อยลง กำจัดของเสียได้น้อยลง ทำให้ร่างกายร้อนและอักเสบได้
2. ฝึกสมาธิ ปล่อยวาง ผ่อนคลายความเครียด ทำกิจกรรมที่ทำให้มีความสุข ฮอร์โมนความสุขจะช่วยให้ลืมเรื่องที่กังวล
3. เปลี่ยนอิริยาบถทุกๆชั่วโมง ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เพื่อให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย เลือดลมไหลเวียนได้ดี
4. ทานอาหารให้ตรงเวลา และ ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อย 5% ของน้ำหนักตัว เพื่อให้เลือดลมไหลเวียนสะดวก ร่างกายเย็นสดชื่น
5. หลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นอาการปวดศีรษะ
• ผงชูรส - เนื่องจากผงชูรสมีสารกลูตาเมต ซึ่งเส้นประสาทในร่างกายคนเราก็สามารถหลั่งสารกลูตาเมตมาใช้สื่อประสาทเช่นกัน เมื่อสารกลูตาเมตในร่างกายมากผิดปกติ สมองจะสับสนว่าสารกลูตาเมต นี้มาจากไหนกันแน่ เมื่อทานอาหารที่มีสารกลูตาเมตมากๆเลยปวดหัวมากขึ้นจากการที่สมองสับสน
• คาเฟอีน - ในส่วนของคาเฟอีน ชา กาแฟ หากทานปริมาณเท่าๆเดิมตลอด หรือ ไม่เกิน 1 แก้ว ต่อวัน จะไม่เป็นผลเสียต่อสุขภาพและสมอง แต่ถ้าทานมากไปแล้วจู่ๆทานน้อยลงเลย ความเข้มข้นของคาเฟอีนในเลือดลดต่ำลงฉับพลัน จะทำหลอดเลือดขยายตัวมากจนปวดหัวนั่นเอง
• ชีส/ช็อกโกแลต/ผลไม้ตระกูลส้ม - เพราะอาหารเหล่านี้มีสารไทโรซีนสูง ปกติสารไทโรซีนจะช่วยเรื่องความจำ กระตุ้นการทำงานของสมอง เพิ่มอัตราการเต้นของหัวใจ การบีบตัวของหัวใจ เพิ่มความดันโลหิต หากทานมากเกินไปจะทำให้หลอดเลือดบีบเกร็งจนปวดหัวได้ แนะนำทานน้อยๆทานแต่พอดี หรือ เลี่ยงในช่วงที่มีอาการปวดหัวก่อนจะดีที่สุด
• น้ำตาลฟรักโทส - เป็นน้ำตาลที่พบมากในผลไม้ที่มีรสหวาน เช่น องุ่น แอปเปิล สาลี่ และ น้ำผึ้ง ซึ่งน้ำตาลฟรักโทสจะมีโครงสร้างที่สัมพันธ์กับสารทริปโตเฟน ซึ่งส่วนประกอบของซีโรโทนิน หรือ ฮอร์โมนความสุข หากร่างกายได้รับน้ำตาลฟรักโทสมากเกินไป ร่างกายจะดูดซึมสารทริปโตเฟนได้น้อยลง ทำให้เรารู้สึกซึมเศร้าได้
นอกจากการดูแลรักษาสุขภาพแล้ว สามารถใช้ยาสมุนไพรเพื่อรักษาเวลามีอาการ เพื่อลดความรุนแรง ทำให้อาการหายไวขึ้นได้เลยนะคะ
หากใครที่มักมีอาการเริ่มต้นมากจากการปวดกล้างเนื้อ คอ บ่า ไหล่ หลัง ตึงจนปวดหัว แนะนำทานยาสมุนไพรคลายเส้น B-comfort ตัวยาจะช่วยคลายกล้ามเนื้อ ลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย ทำให้สบายตัวมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวหมอจะทาน B-comfort เป็นประจำเพื่อคลายกล้ามเนื้อ เมื่อเราปวดเมื่อยน้อยลง จำนวนครั้งในการปวดหัวก็จะน้อยลงตาม ถือว่าได้ผลดีทีเดียวค่ะ
ส่วนตอนที่ปวดหัวแล้ว แนะนำทานสมุนไพรชุด M-Set ประกอบไปด้วยยาทานแคปซูล B-Pressure และ ยาหอมอินทจักร์แบบชงดื่ม ตัวยาจะช่วยลดอาการปวดหัว ช่วยให้ผ่อนคลาย กระตุ้นให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น นำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้มากยิ่งขึ้นค่ะ อาการปวดหัวจึงทุเลาลงจนหายไปค่ะ
หากใครที่กำลังมีอาการเหล่านี้ ไม่ต้องกังวลไปนะคะ อาการเหล่านี้สามารถรักษาให้หายได้ ในการรักษาให้หายขาดจำเป็นต้องใช้ยา และปรับพฤติกรรมร่วมด้วย อาการจึงจะหายได้แบบยั่งยืนค่ะ มารักษาอาการให้หายไปด้วยกันได้เลยนะคะ
ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: TEL: 02-1147027
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "