5 วิธีออกกำลังกายที่คนเป็นริดสีดวงทำได้

วิธีดูแลสุขภาพตามหลักแพทย์แผนไทย

5 วิธีออกกำลังกายที่คนเป็นริดสีดวงทำได้

5 วิธีออกกำลังกายที่คนเป็นริดสีดวงทำได้


หลาย ๆ ท่าน คงจะเคยประสบปัญหาเวลาที่ริดสีดวงอักเสบขึ้นมา กิจวัตรการออกกำลังกายที่ทำเป็นประจำของเรานั้นกลับทำไม่ได้เหมือนเดิม แต่ก็ไม่อยากให้ร่างกายโทรมลงจากการหยุดออกกำลังกายเป็นเวลานาน ๆ วันนี้ปุณรดายาไทยมีวิธีออกกำลังกายมาแนะนำสำหรับคนที่เป็นริดสีดวงทวารกัน แต่ก่อนไปดูวิธีออกกำลังกาย เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการริดสีดวงว่าทำไมถึงออกกำลังกายบางอย่างไม่ได้กันก่อนนะคะ

 

ริดสีดวงทวารทางแผนไทย เกิดจากอะไร ?


ทางแพทย์แผนไทยมองว่าอาการริดสีดวงทวาร เกิดจาก ระบบการขับถ่ายที่ผิดปกติไปจากการที่ธาตุทั้ง 4 ในร่างกายเสียสมดุล โดยเฉพาะธาตุไฟ ธาตุลมและธาตุน้ำ โดยปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการที่สำคัญ คือ การทานอาหารและ พฤติกรรม ต่างๆที่ส่งผลต่อสุขภาพ เช่น การทานอาหารรสจัด การกลั้นอุจจาระ การดื่มน้ำน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือนั่งทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน เป็นต้น ซึ่งในระหว่างที่เรามีอาการริดสีดวงทวารอยู่นั้น การดูแลสุขภาพจากภายในก็เป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงการออกกำลังกายเป็นประจำ จะทำให้ธาตุทั้ง 4 ในร่างกายเข้าสู่สมดุลมากขึ้น ช่วยลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำได้ แต่ไม่ใช่ว่าเราจะสามารถออกกำลังกายได้ทุกชนิด เพราะการออกกำลังกายบางอย่างจะทำให้อาการริดสีดวงทวารยิ่งกำเริบขึ้นมาได้เช่น

  - การยกเวทที่ต้องใช้แรงมากกว่าการออกกำลังกายแบบอื่น ๆ 

  - การออกกำลังกายที่ทำให้เกิดการเสียดสีบริเวณช่วงล่าง เช่น การวิ่ง ปั่นจักรยาน กระโดดเชือก เทนนิส แบดมินตัน เป็นต้น

 

5วิธีออกกำลังกายสำหรับคนเป็นริดสีดวง

 

วิธีการสังเกตว่า “ออกกำลังกายหนัก”ไปไหม


ไม่สามารถพูดเป็นคำหรือโต้ตอบได้ แสดงว่าเราออกกำลังกายหนักเกินไป จะทำให้ธาตุไฟในร่างกายถูกกระตุ้น เกิดความร้อนสะสมมากในร่างกาย และเกิดแรงดันภายใน ทำให้อาการริดสีดวงทวารอักเสบมากขึ้น 

 

ออกกำลังกายแบบไหน ถึงจะดีกับอาการริดสีดวงทวาร ?


วิธีออกกำลังกายที่เหมาะสม จะต้องเป็นการออกกำลังกายเบา ๆ ไม่หนักเกินไป ออกแล้วทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดลมในร่างกายได้ดี ธาตุทั้ง 4 ในร่างกายเกิดความสมดุล มีทั้งการนำสิ่งที่สะสมในร่างกายออกมาใช้ และเป็นการขับของเสียต่าง ๆ ออกจากร่างกาย และจะต้องไม่ออกแรงมากเกินไป สังเกตง่าย ๆ ได้จาก ขณะที่ออกกำลังกาย เราสามารถพูดรู้เรื่อง เป็นคำได้ 

 

5 วิธีออกกำลังกาย สำหรับคนเป็นริดสีดวงทวาร


1. โยคะ

เป็นวิธีการออกกำลังกายที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในทุกเพศทุกวัย เพราะเป็นการออกกำลังกายที่ทำได้ง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มาก ทางแผนไทยมองว่าการทำท่าโยคะจะทำให้ธาตุทั้ง 4 ในร่างกายปรับเข้าสู่สมดุล เลือดลมไหลเวียนได้ดีมากขึ้น จากการฝึกลมหายใจตลอดที่ทำท่าโยคะต่าง ๆ และทำให้ปริมาณของเหลวในร่างกายสมดุลกัน กระจายเลือดและของเสียต่าง ๆ ที่คั่งค้าง ช่วยลดการกระจุกกันของเลือดบริเวณติ่งริดสีดวงทวารได้ นอกจากนี้โยคะยังช่วยผ่อนคลายความเครียด ได้ยืดเหยียดและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว กล้ามเนื้อช่วงท้อง เป็นการปรับสมดุลระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย ช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น ท่าที่แนะนำสำหรับผู้ที่มีอาการริดสีดวงทวาร หรือการขับถ่ายไม่ปกติ จะเป็นท่าง่าย ๆ เช่น ท่างอเข่าชิดอก (อัพนาสนะ) , ท่างูตัวเล็ก (ภุชงคาสนะ) , ท่าตั๊กแตนบิด (ศลภาสนะ 2) หรือ ท่าเด็ก (กุมาราสนะ) เป็นต้น

การเล่นโยคะ แนะนำให้ทำอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ จนถึงทุกวันได้ เพราะการทำท่าโยคะไม่ได้เป็นการออกกำลังกายที่หนักเกินไป หากทำทุกวันจะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในร่างกายได้ชัดเจนมากขึ้น

 

 

2. ว่ายน้ำ

ในทางแพทย์แผนไทยได้พูดถึงการใช้น้ำรักษา ในตำราแพทย์สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช โดยมีการแช่ในน้ำผสมสมุนไพรต่างๆ ซึ่งการนำตัวลงไปแช่จะช่วยระบายความร้อน กระจายเลือดลมที่คั่งค้างบริเวณต่าง ๆ ทั้งร่างกายได้ดี และยิ่งได้มีการขยับตัวในน้ำไปด้วย จะยิ่งทำให้ระบบการกำจัดของเสียในร่างกายทำงานได้ดี การว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายอีกชนิดหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะไม่มีแรงกระแทก ไม่เกิดแรงดันภายในมาก ไม่ต้องใช้แรงเยอะ เน้นการหายใจเข้า-ออกอย่างมีประสิทธิภาพ เสริมความแข็งแรงของปอดและหัวใจเป็นหลัก ลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อทุกส่วนในร่างกายได้ มีการใช้กล้ามเนื้อส่วนบนมากกว่าส่วนล่าง และยังเป็นการออกกำลังกายในแนวราบ ไม่ทำให้เกิดการสะสมของเลือดไปที่ติ่งริดสีดวงทวารอีกด้วย

 

5วิธีออกกำลังกายสำหรับคนเป็นริดสีดวง

 

3. แอโรบิค

แอโรบิคเป็นการออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อมากขึ้น สร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และกระตุ้นการไหลเวียนทั้งร่างกายได้ดี แอโรบิคที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีอาการริดสีดวงทวารจะต้องเป็นจังหวะที่เหมาะสม ได้ขยับร่างกายพอประมาณ ไม่ช้าและไม่เร็วเกินไปจนทำให้เกิดการเสียดสีของช่วงล่างอย่างรวดเร็ว ต้องหายใจเข้า-ออกได้เป็นจังหวะ ไม่เหนื่อยหอบจนเกินไป ระยะเวลาที่เหมาะสมในการออกกำลังกายโดยการเต้นแอโรบิค คือ 30-45 นาที สัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง แนะนำให้หาท่าออกกำลังแอโรบิคด้วยตัวเอง เพื่อไม่ให้เป็นการเคลื่อนไหวที่หนักเกินไปนะคะ

 

5วิธีออกกำลังกายสำหรับคนเป็นริดสีดวง

 

4. กายบริหาร

การแพทย์แผนไทยได้มีการเสนอวิธีการทำกายบริหาร เป็นอีกหนึ่งวิธีการออกกำลังกายที่ใช้รักษาอาการต่างๆ มากมาย ไม่ใช่เพียงแค่อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ แต่ยังรวมไปถึงการรักษาอาการปวดศีรษะ ปวดท้อง แก้กษัยต่างๆ รวมถึงอาการท้องผูก ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดริดสีดวงทวาร การทำท่าบริหารจะทำให้กล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ได้มีการยืดเหยียด ผ่อนคลายลง ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า โดยเฉพาะท่าที่ได้ยืดกล้ามเนื้อหน้าท้อง ทำให้หน้าท้องหย่อนลง แรงดันในช่องท้องลดลง เลือดลมไหลเวียนได้ดี ติ่งริดสีดวงทวารก็จะหายได้เร็วมากขึ้น

 

การทำท่าบริหาร ควรทำค้างไว้ท่าละ 10-15 วินาที ท่าละ 3-5 ครั้ง วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และสามารถทำได้ทุกวัน ในขณะที่ฝึกทำท่าต่าง ๆ ต้องกำหนดลมหายใจเข้าออกไปพร้อม ๆ กับการออกท่าทางด้วย โดยสูดหายใจเข้าให้ลึกที่สุด จากนั้นกลั้นลมหายใจไว้ก่อน แล้วจึงค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออก จะทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดลมในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

ตัวอย่างท่าบริหารที่เหมาะสม เช่น ท่าบริหารกล้ามเนื้อหลัง และหน้าท้อง วิธีการทำง่าย ๆ คือ คุกเข่ามือทั้งสองยันพื้น (คล้ายท่าคลาน) หายใจเข้าพร้อมเงยหน้าแอ่นอก กลั้นหายใจไว้ 5 วินาที หายใจออกช้าๆ พร้อมเกร็งกล้ามเนื้อหน้าท้องและสะโพก ยันพื้นให้ลำตัวโก่งขึ้น ท่านี้จะช่วยให้ลดอาการปวดหลัง เลือดลมไหลเวียนได้ดี ลดอาการปวดเจ็บบริเวณทวารหนัก และกระจายเลือดที่คั่งค้างบริเวณติ่งริดสีดวงทวาร

 

 

ที่มา : http://xn--42c5b0abc6f4a5fwa.blogspot.com/2014/02/Pregnancy-Yoga.html

และอีกหนึ่งท่าที่จะทำให้ลำไส้ได้บิดตัว ลดอาการท้องผูก และอาหารไม่ย่อยได้ดี วิธีการทำท่าบริหารคือ นั่งขาขวาเหยียดตรง ชันขาซ้ายขึ้น และไขว้ขาซ้ายพาดเข่าข้างขวา นำแขนข้างขวาเหยียดตรง หายใจเข้า ใช้หลังศอกดันต้านบริเวณหัวเข่าซ้าย เหยียดหลังตรงและบิดตัวหันไปทางซ้าย ค้างไว้ 5 วินาที ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกและกลับเข้าสู่ท่าเดิม 

 

 

ที่มา : https://sistacafe.com/gallery/album/29684

 

5. การแกว่งแขน หรือ เดิน จ็อกกิ้งเบาๆ

ศาสตร์ทางแพทย์แผนจีนให้ความหมายของ การเดินแกว่งแขนเป็นประจำทุกวัน ว่าจะช่วยให้ชีพจรในร่างกายกลับเข้าสู่สมดุลเร็วขึ้น เช่น ถ้าเรามีปัญหาในส่วนต่าง ๆ มักเกิดจากการที่ชีพจรไม่คงที่ หรือการไหลเวียนของเลือดในบริเวณนั้น ๆ ไม่เพียงพอ สำหรับผู้ที่มีอาการริดสีดวง การแกว่งแขน จะทำให้ระบบย่อยอาหาร และการขับถ่ายทำงานได้ดี ไม่มีของเสียตกค้างในร่างกาย ธาตุทั้ง 4 เกิดความสมดุล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการออกกำลังกายเบา ๆ ไม่หนักจนเกินไป เพื่อรักษาสุขภาพที่ดีได้จากภายใน

 

การเดิน เป็นการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะทำได้ง่าย สามารถทำได้ในชีวิตประจำวัน ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ เพียงแค่มีรองเท้าใส่เดินที่เหมาะสม พื้นรองเท้าไม่แข็งหรือนิ่มจนเกินไป รองรับการกระแทกได้ดี และมีสถานที่ปลอดโปร่ง ไม่มีฝุ่นควัน หรือสามารถเดินบนลู่วิ่งได้เช่นกัน

การเดินออกกำลังกายที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีอาการริดสีดวงทวาร ไม่แนะนำให้เดินเร็ว หรือวิ่ง ไม่ก้าวยาวเกินไป เพราะจะทำให้เกิดการเสียดสีบริเวณทวารหนักมากเกินไป แต่ให้เน้นความต่อเนื่องในการเดินมากกว่า คือ เดินออกกำลังกายต่อเนื่องครั้งละ 30 นาทีขึ้นไป สัปดาห์ละ 3-5 ครั้งก็เพียงพอที่จะทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงได้

 

5วิธีออกกำลังกายสำหรับผู้เป็นริดสีดวงทวาร

 

นอกจากเลือกวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคนเป็นริดสีดวงแล้ว การดูแลสุขภาพด้วยวิธีธรรมชาติ การทานอาหารที่มีประโยชน์ มีกากใยสูง ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ งดอาหารแสลง ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะการดูแลสุขภาพที่ดีได้จากภายใน จะทำให้ธาตุทั้ง 4 ในร่างกายสมดุล สามารถต่อต้าน และป้องกันอาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ได้ดี ลดโอกาสที่จะกลับมาเป็นซ้ำ จนอาการริดสีดวงทวารหายสนิทไม่กลับมากวนใจอีกนะคะ

 

 

 

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 086-955-6366, 091-546-9415


ทีมแพทย์แผนไทยปุณรดา

สุรดา เลิศเกศราธรรม

ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร

"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"

พท.ป.เอกพล ศิริพงษ์เวคิน

แพทย์แผนไทยประยุกต์

" ใส่ใจทุกความต้องการ ดูแลเหมือนคนในครอบครัว "

นศ.พท.ป. สุพัชชา พรมน้ำ

แพทย์แผนไทย

" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "


ปุณรดา ยาไทย
แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด

ท่านจะได้รับทราบโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครทาง LINE@ พร้อมบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์แบบส่วนตัวฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.

ข้อความถึงร้าน


× คุณได้เพิ่มสนค้าลงตะกร้า ดูสินค้าในตะกร้า