เป็นเริมที่ปาก ทำแผลอย่างไรดี?

เมื่อเริมแตกเป็นแผล หลาย ๆ คนคงจะมีความกังวล และมีข้อสงสัยว่าจริง ๆ แล้วเราควรทำแผลอย่างไร ควรดูแลอย่างไรไม่ให้เป็นแผลเป็น ใช้ยาอะไรให้แผลหายเร็วและไม่ติดเชื้อซ้ำ วิธีเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เช่นเบตาดีน น้ำเกลือ แอลกอฮออล์ สามารถใช้ทาแผลเริมได้ไหม ดังนั้นการดูแลความสะอาดแผลเริมเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ เพราะหากดูแลแผลไม่ถูกวิธีก็อาจทำให้เกิดการลุกลามหากมีอาการติดเชื้อเพิ่มขึ้น ซึ่งจะยิ่งทำให้การรักษายากขึ้นและใช้เวลารักษานานขึ้น วันนี้ปุณรดายาไทยมีวิธีการทำแผลที่ถูกต้อง ที่จะทำให้แผลเริมหายได้เร็ว และป้องกันการติดเชื้อซ้ำ มาแนะนำกันค่ะ

ปกติแล้วลักษณะแผลเริมจะมีหลายระยะ โดยเริ่มแรกก่อนจะมีอาการเริม จะเริ่มมีความรู้สึกตึง ๆ และแสบร้อนที่บริเวณผิวหนัง ก่อนที่จะมีตุ่มน้ำใสขึ้น หลังจากนั้นตุ่มน้ำใสนั้นก็จะแตกออก จนแห้ง และกลายเป็นแผลตกสะเก็ด และหลังจากนั้นจะค่อย ๆ จางหายไป ซึ่งระยะเวลาที่มีอาการโดยปกติจะมีอาการอยู่ประมาณ 2 สัปดาห์ แต่อาการก็สามารถหายเร็วขึ้นหากมีการดูแลสุขภาพและดูแลแผลอย่างเหมาะสม

ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมในการทาแผลเริม

สำหรับการทำความสะอาดแผลเริมที่ปาก น้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมและปลอดภัยที่สุดคือ น้ำเกลือสำหรับทำความสะอาดแผล (Normal Saline Solution / NSS) เพราะคุณสมบัติของสารละลายเกลือความเข้มข้น 0.9% เป็นสภาวะใกล้เคียงกับน้ำในร่างกาย และมีค่าความเป็นกรด-เบสใกล้เคียงกับผิวหนัง (pH 4.5 – 7.5) จึงไม่ระคายเคืองต่อแผลและผิวหนัง โดยเฉพาะผิวหนังบริเวณใบหน้าและริมฝีปากที่มีความบอบบาง จึงสามารถใช้กับแผลเริมได้ทุกระยะตั้งแต่เริ่มมีอาการจนแผลหายสนิทโดยไม่เกิดอันตราย

เริมที่ปาก ทำแผลอย่างไรดี1

แอลกอฮอล์และเบตาดีนสามารถใช้ได้ไหม ?

ส่วนน้ำยาทำความสะอาดแผลชนิดอื่น ๆ เช่น เบตาดีน หรือ แอลกอฮอล์ ปกติสามารถใช้กับแผลทั่วไปรวมถึงแผลเริมได้ แต่วิธีการใช้ที่ถูกต้องคือควรทาแค่บริเวณรอบๆแผล ไม่ควรทาลงบนแผลโดยตรง เพราะจะทำให้เกิดความระคายเคืองมากขึ้น และยิ่งถ้าแผลเริมอยู่บริเวณริมฝีปากก็จะยิ่งมีความเสี่ยงต่อการที่เบตาดีน หรือ แอลกอฮอล์จะไหลเข้าปาก จึงควรใช้อย่างระมัดระวัง

เริมที่ปาก ทำแผลอย่างไรดี2

หากเราทำความสะอาดแผลได้ถูกวิธี และรักษาความสะอาดอย่างต่อเนื่อง แผลเริมที่แตกออกก็จะหายได้เร็ว และไม่ทิ้งรอยแผลเป็นไว้จนเสียความมั่นใจ หรือสร้างความรำคาญใจให้เราได้อีกต่อไปนะคะ