หลายๆครั้งที่ทีมแพทย์แผนไทยของปุณรดาได้ดูแล ให้คำแนะนำผู้ที่มีอาการริดสีดวงทวารหลายๆ ท่าน สิ่งหนึ่งที่เราพบบ่อยคือความกังวลเกี่ยวกับการรักษา เพราะลองมาหลายอย่างแล้ว ไหนจะลองเอาคำแนะนำในอินเตอร์เน็ตมาใช้ อาการริดสีดวงก็ยังไม่หายสักที จนหลายคนไปหาข้อมูลการผ่าตัด เพราะคิดในใจว่า “หรือว่าเราจะต้องผ่าออก” เชื่อว่าคนที่มีอาการริดสีดวงมาเป็นเวลานาน เคยมีอาการอักเสบ ทรมานจากอาการ คงจะเคยมีความคิดแบบนี้ แต่ก็ยังมีความกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายเพราะในการผ่าตัดค่าใช้จ่ายก็สูงพอสมควร แถมต้องเจ็บตัวอีก ซึ่งคำถามเหล่านี้ลูกค้าของปุณรดายาไทยสอบถามเข้ามาบ่อย ทุกครั้งที่ได้ยินทีมงานเราเข้าใจในความกังวลนี้ จึงทำให้เราเก็บเคสที่เข้ามาหาเราด้วยความกังวลต่างๆแล้วพอได้ทำการรักษากับทางร้านอาการก็ดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับจนไม่คิดจะไปผ่าตัดอีก วันนี้เลยจะขอมาสรุปการรักษาที่เหมาะสม ทั้งข้อสำคัญที่ควรรู้ สำหรับผู้ที่มีอาการริดสีดวงให้ได้ศึกษากันนะคะ
โรคริดสีดวงเป็นโรคที่พบได้ทั่วไปในคนส่วนใหญ่ เนื่องจากปัญหาเรื่องการขับถ่ายสามารถเกิดขึ้นได้ทุกช่วงทุกวัย บางคนอาการเป็นไม่มาก ไม่ได้กระทบเรื่องการขับถ่าย และไม่มีอาการเจ็บใด ๆ อาการแบบนี้ก็ไม่มีความกังวล จะรักษาโดยการใช้ยา หรือ ปรับพฤติกรรมก็สามารถทำให้อาการหายเองได้ แต่หากมีอาการที่รุนแรงขึ้น ทำให้ถ่ายยาก หรือมีอาการอักเสบ จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ ข้อสังเกตหลัก ๆ แบบง่ายที่บ่งบอกว่าริดสีดวงของคุณควรได้รับการรักษาแล้วมีดังนี้
1.ริดสีดวงมีอาการอักเสบ บวม เจ็บ
2.มีเลือดออกระหว่างการขับถ่าย หรือหลังขับถ่าย
3.ริดสีดวงยื่นออกมาภายนอก หรือดันกลับเข้ายากทำให้เสียบุคลิคภาพ
4.ถ่ายยาก ถ่ายลำบาก ต้องเบ่งแรง นั่งห้องน้ำนาน
สำหรับการรักษาริดสีดวงมีทางเลือกในการรักษาหลายแบบ ขึ้นอยู่กับระยะอาการและความรุนแรง ในการเลือกการรักษาแต่ละแบบก็มีปัจจัยเรื่องค่าใช้จ่ายร่วมด้วย หมอจะขออธิบายทางเลือกในการรักษาหลัก ๆ เป็น 2 ศาสตร์คือ
1.การรักษาทางแผนปัจจุบัน
2.การรักษาด้วยสมุนไพรหรือศาสตร์การแพทย์แผนไทย
การใช้ยาเหน็บ มีทั้งชนิดแท่งและชนิดขี้ผึ้ง มักจะประกอบด้วย ยาชา ยาลดการอักเสบ ยาหดตัวของหลอดเลือด และยาปฏิชีวนะ แพทย์จะให้ยาเหน็บริดสีดวงทวาร เหน็บวันละ 2-3 ครั้ง ถ้าปวดมากจนมีอาการอักเสบ จะให้รับประทานยาแก้ปวด
เหมาะสำหรับ ผู้ที่เป็นริดสีดวงทวารภายในมีอาการอักเสบ ปวดบวม อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นใช้เวลาประมาณ 7-10 วัน
การรักษาโดยวิธีใช้ยางรัด (Rubber band ligation) หรือยิงยางรัดโคนหรือหัวของริดสีดวงที่โผล่ออกมา ซึ่งจะทำให้หัวของริดสีดวงนั้นฝ่อและหลุดออกไปเองภายใน 5-7 วัน
เหมาะสำหรับ ริดสีดวงภายในระยะ 2 คือพบหัวริดสีดวงโผล่ออกมาเวลาขับถ่าย สามารถหดกลับเองได้ และการรักษานี้จะเห็นผลได้ดี โดยเฉพาะเมื่อหัวริดสีดวงมีขนาดใหญ่ ผู้ป่วยมักไม่มีอาการเจ็บปวด
ข้อควรระวัง หากรัดยางใกล้กับแนวเส้นประสาทมากเกินไป จะส่งผลให้เกิดความรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงทันที
การฉีดยาเข้าที่หัวริดสีดวงทวาร ตัวยาจะทำให้หลอดเลือดดำฝ่อและหัวริดสีดวงยุบไป
เหมาะสำหรับ ริดสีดวงในระยะที่ 2 วิธีนี้เป็นวิธีที่สะดวก ปลอดภัย ไม่มีความเจ็บปวด แพทย์มักจะนัดมาฉีด สัปดาห์ละครั้งประมาณ 3-5 ครั้ง สามารถช่วยให้หายขาดได้ประมาณ 60-70%
การทำลายเนื้อเยื่อด้วยการเผา เป็นวิธีการรักษายังไม่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย โดยปกติแล้วแพทย์จะใช้เฉพาะเมื่อวิธีอื่นไม่ได้ผล ซึ่งก็มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี ได้แก่ เผาเนื้อเยื่อด้วยการใช้ไฟฟ้าจี้, การฉายรังสีอินฟราเรด, การใช้แสงเลเซอร์ผ่าตัด, การผ่าตัดด้วยการ ใช้ความเย็น เป็นต้น
เหมาะสำหรับ อาการริดสีดวงระยะที่ 2
การผ่าตัดริดสีดวงทวาร เป็นการรักษาที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีการพัฒนาเทคนิคการผ่าตัดทำให้การพักฟื้นหายเร็วขึ้น
เหมาะสำหรับ อาการริดสีดวงระยะที่ 4 หรือริดสีดวงภายนอกที่มีลิ่มเลือด หรือมีการขาดเลือดของริดสีดวงทวาร
ในการรักษาโดยใช้สมุนไพรที่เคยเห็นกันทั่วไป คือการใช้สมุนไพรเดี่ยวที่ชื่อว่า “เพชรสังฆาต” ในการรักษา แต่แท้จริงแล้วตามศาสตร์การแพทย์แผนไทยในการรักษาจริง ๆ ไม่นิยมการใช้สมุนไพรเดี่ยวเนื่องด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น การรักษาอาจจะไม่ครอบคลุมโรค ไม่สามารถทำให้อาการหายได้จริง และหากทานสมุนไพรเดี่ยวต่อเนื่องนาน ๆ จะก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายร่วมด้วย
“หลักการที่สำคัญในการรักษาทางแผนไทย คือ ลดบทบาทของธาตุไฟไม่ให้กำเริบมากเกินไป
และกระจายธาตุลมให้พัดสะดวกขึ้น”
โดยทั่วไปตาม รพ.จะมีตำรับยาที่ใช้ในการรักษาโดยยึดตามบัญชียาหลักจากสมุนไพรแห่งชาติ ได้แก่ ยาผสมเพชรสังฆาต และ ยาริดสีดวงมหากาฬ ซึ่งจะมีสรรพคุณ ทำให้ริดสีดวงฝ่อ ช่วยระบาย แก้อาการถ่ายเป็นพิษ โดยในแต่ละตำรับจะประกอบด้วยสมุนไพรหลายชนิด ได้แก่
- ยาผสมเพชรสังฆาตสูตร 1 ประกอบด้วย เพชรสังฆาต รากอัคคีทวาร โกศน้ำเต้า
- ยาผสมเพชรสังฆาตสูตร 2 ประกอบด้วย เถาเพชรสังฆาต กะเม็ง โกศน้ำเต้า หัวกระชาย
- ยาริดสีดวงมหากาฬ ประกอบด้วย มดยอบคั่ว ขอบชะนางแดง ขอบชะนางขาว โกฐกักกรา โกฐสอ โกฐจุฬาลัมพา โกฐก้านพร้าว โกฐพุงปลา เทียนทั้ง 5 ลูกจันทร์ ดอกจันทร์ แก่นสนเทศ เถาสะค้าน เปลือกสมุลแว้ง ดอกดีปลี พริกไทยล่อน เหง้าขิง เปลือกอบเชยเทศ
เหมาะสำหรับ การรักษาริดสีดวงทุกระยะอาการ ควบคู่กับการดูแลสุขภาพตามคำแนะนำ
นอกจากตำรับที่ใช้การรักษาโดยทั่วไปแล้ว หมอแผนไทยแต่ละคน แต่ละคลินิก ก็มักจะมีสูตรตำรับยาที่ใช้ในการรักษาเฉพาะของแต่ละที่ เรียกได้ว่าเป็นศาสตร์และศิลป์ในการรักษาของแพทย์แผนไทยที่มีมาแต่โบราณ
อีกสิ่งสำคัญในการรักษาตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย คือการคำนึงถึงองค์รวมของสุขภาพ ซึ่งการรักษาต้องมาพร้อมกับการป้องกัน เพื่อไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ เน้นย้ำเป็นอย่างมากที่ต้องให้ผู้ป่วยดูแลตัวเอง รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ งดอาหารแสลงสำหรับริดสีดวง ออกกำลังเท่าที่จำเป็น หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่จะกระตุ้นให้ริดสีดวงกลับมาเป็นซ้ำ พักผ่อนให้เพียงพอ เห็นได้ว่าสิ่งเหล่านี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย หรือเรื่องทั่วไปที่ดูไม่น่าจะสำคัญอะไรกับอาการริดสีดวง แต่จากประสบการณ์การรักษาผู้ป่วยที่ผ่านมา ไม่เพียงเฉพาะโรคริดสีดวงทวาร พฤติกรรมเหล่านี้กลับเป็นสิ่งที่ปรับให้ถูกต้องยากกว่าการต้องทานยาให้ถูกต้องและต่อเนื่องเสียอีก ฉะนั้นเราไม่ควรจะมองข้ามสิ่งเหล่านี้นะคะ
การรักษาทางแผนปัจจุบัน ราคาค่ารักษาโรคริดสีดวงทวารตามรพ.ต่าง ๆ ที่ทำการศึกษาและรวบรวมข้อมูลมา ประมาณค่าใช้จ่ายได้ตามตารางต่อไปนี้
สำหรับ การรักษาทางแพทย์แผนไทย โดยราคาตัวยาที่พบเห็นทั่วไปคือราคาของยาผสมเพชรสังฆาต ซึ่งมีราคาต่อกระปุก 130 - 250 บาท ระยะเวลาในการรักษาจะต้องใช้เวลาต่อเนื่อง ทำให้การควบคุมค่าใช้จ่ายเป็นไปได้ยาก อีกทั้งไม่แน่นอนว่าหลังจากทานต่อเนื่องแล้วอาการจะหายสนิทไหม แพทย์แผนไทยส่วนใหญ่ จึงไม่ค่อยแนะนำให้ผู้ป่วยซื้อยารับประทานเอง ควรที่จะได้รับการดูแลจากทางแพทย์แผนไทยที่เชี่ยวชาญ เพื่อที่จะได้ให้คำแนะนำที่เหมาะสมจนทำให้อาการสามารถหายสนิทได้นะคะ
ตำรับยารักษาริดสีดวงทวาร
ปุณรดายาไทย เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรไทยที่มาพร้อมตำรับยาที่ใช้ในการรักษา โดยได้รับการสืบทอดตำรับยารักษามาตั้งแต่สมัยร.5 ร่วมกับการปรับเปลี่ยนการรักษาให้เข้ากับยุคสมัย การทำความเข้าใจกับผู้ป่วย เก็บข้อมูลพฤติกรรม และอาการต่าง ๆ เพื่อให้การรักษาที่เฉพาะกับแต่ละบุคคล โดยใช้ตำรับยาหลักที่เราใช้ในการรักษาชื่อว่า RIZ FREE ประกอบด้วยตัวยาหลัก 2 ชนิดคือ
- D-CLEAR สรรพคุณ ช่วยให้ริดสีดวงหัวฝ่อ แห้ง และยุบตามลำดับ รักษาริดสีดวงภายใน และภายนอก สมานแผลในลำไส้ใหญ่
- CLEAR สรรพคุณ ช่วยลดอาการบวม ปวด เจ็บ ลดอาการอักเสบ รักษาและป้องกันการขับถ่ายที่มีเลือดปน ฟื้นฟูระบบขับถ่ายให้กลับสู่สมดุลสามารถกลับมาขับถ่ายได้อย่างปกติ
เมื่อยาสมุนไพรทั้งสองชนิดทำงานควบคู่กัน จะทำให้ริดสีดวงฝ่อ แห้ง ลดการบวมของเส้นเลือดดำบริเวณรูทวาร และทำให้ริดสีดวงยุบตัวลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ไม่มีอาการปวดบวมเจ็บก็สามารถทานได้ นอกจากนี้หากคุณมีอาการริดสีดวงที่ยื่นออกมาภายนอก หรือริดสีดวงระยะที่ 4 ก็ควรที่จะใช้ตัวยาภายนอกร่วมด้วย เพื่อบรรเทาอาการลดการอักเสบจากภายนอก ทำให้หัวยุบได้เร็วขึ้น ตัวยาภายนอกที่เราใช้ควบคู่ในการรักษาคือ ยาทา B-Liz2 oil และ ผงแช่บรรเทาอาการอักเสบ SO FIN มีสรรพคุณคือ
- B-liz2 oil ยาทาภายนอกริดสีดวงทวาร สรรพคุณ ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรก ป้องกันให้ไม่เข้าสู่ริดสีดวงและแผลฉีกขาดที่ทวาร ทำให้ริดสีดวงยุบได้เร็วขึ้น ช่วยสมานแผลภายนอก
- SO FIN ผงแช่บรรเทาอาการอักเสบ สรรพคุณ ช่วยให้ลิ่มเลือดกระจายตัวได้ดี ลดอาการขอดของหลอดเลือดดำบริเวณช่องทวารหนัก ลดอาการบวม ปวด เมื่อเส้นเลือดดำไม่ขอด ทำให้ริดสีดวงไม่เกิดซ้ำอีก
.gif?time=1710734077746)
นอกจากการรักษาโดยใช้ตำรับยาที่เฉพาะสำหรับอาการริดสีดวงทวารแล้ว สิ่งที่ปุณรดายาไทยให้ความสำคัญคือการดูแลสุขภาพ รักษาสมดุลของธาตุทั้ง 4 ควบคู่กับการรักษา เพื่อทำให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุด ริดสีดวงทวารสัมพันธ์กับธาตุทั้ง 4 ค่ะ หากจะให้อธิบายการรักษาสมดุลของธาตุทั้ง 4 อย่างง่าย ๆ ก็คงเทียบได้เท่ากับการปลูกต้นไม้ 1 ต้น เราจำเป็นที่จะต้องมีดินปลูกที่ดี มีสารอาหารครบถ้วน ดินจะต้องเหมาะสำหรับต้นไม้เพื่อให้ต้นไม้สามารถหยั่งราก คงตั้งต้นดำรงอยู่ได้ตราบอายุไข มีน้ำในปริมาณที่เพียงพอเหมาะสมต่อต้นไม้ เพื่อให้ต้นไม้สามารถคงความอุดมความสมบูรณ์ไว้ได้ มีลมหรือการลำเลียงสารอาหารในลำต้นไปได้อย่างทั่วถึงตั้งแต่รากจนถึงยอดปลายใบ เพื่อให้ทุกส่วนเจริญเติบโตอย่างเต็มที่ และส่วนสุดท้ายที่ขาดไปไม่ได้ คือต้องมีแสง(เทียบกับธาตุไฟในร่างกาย) เพื่อให้เกิดการสังเคราะห์แสง เปลี่ยนจากแสงเป็นพลังเพื่อใช้ในต้นไม้ต้นนั้น ร่างกายเราก็เป็นแบบนี้เช่นกันค่ะ ร่างกายเราจำเป็นที่จะต้องมีความสมดุลของธาตุ 4 ธาตุในร่างกาย ทั้งธาตุดิน น้ำ ลม และไฟ
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องหลัก ๆ เลย คือ พฤติกรรมต่าง ๆ ทั้งการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม การดื่มน้ำอย่างเพียงพอ การดูแลร่างกายภายในให้ระบบต่าง ๆ ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และดูแลปัจจัยภายนอกทั้งการพักผ่อน การออกกำลังกาย การทำงานแบบ Work-Life Balance สิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดนี้ล้วนมีความสำคัญในการรักษาทั้งสิ้น เพราะเมื่อธาตุทั้ง 4 ของเราไม่สมดุล เกิดความร้อนมากขึ้น (ธาตุไฟมากขึ้น) แรงดันหลอดเลือดไม่ปกติ (ธาตุลมไม่ปกติ) รับประทานอาหารแสลงที่กระตุ้นอาการริดสีดวง (เร่งกระตุ้นธาตุไฟให้เกิดการอักเสบมากขึ้น) ก็ยิ่งทำให้อาการกลับมาเป็นอีกได้นะคะ เพราะฉะนั้นไม่ว่าคุณจะรักษาด้วยวิธีการใดก็ตาม การปรับตัว การดูแลสุขภาพตัวเองให้ถูกต้องเหมาะสมจึงจะทำให้เราไม่กลับมาเป็นซ้ำแบบเดิมอีกนะคะ
เนื่องด้วยปุณรดายาไทย มีความเชี่ยวชาญในการรักษาริดสีดวงทวารด้วยตำรับยาสมุนไพร โดยกลุ่มลูกค้าของเรามากกว่า 90% อาการดีขึ้นตั้งแต่ 1 ชุดแรกที่ใช้ (ประมาณ 7-10 วัน) จากการเก็บข้อมูล เวลาที่ใช้ในการรักษาจนอาการหายสนิทอยู่ที่ประมาณ 1-4 เดือน
ประมาณการค่าใช้จ่ายที่ใช้ในการรักษาเริ่มต้นที่ 2,940 บาท สูงสุดอยู่ที่ 16,000 บาทตลอดการรักษา
1.รักษาด้วยตำรับยารักษาริดสีดวงแบบเฉพาะ รักษาอย่างตรงจุด อาการสามารถหายสนิท และลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำได้ ไม่ก่อให้เกิดสารตกค้างในร่างกาย มีความปลอดภัยต่อตับและไต
2.เป็นร้านขายยา online ที่มีบริการตอบคำถามสุขภาพ ให้คำปรึกษา และติดตามผล โดยแพทย์แผนไทย ตั้งแต่ 8:00 - 22:00 น.
3.มีคู่มือการดูแลสุขภาพที่เป็นส่วนหนึ่งของการรักษาริดสีดวง ในรูปแบบเอกสารและแบบออนไลน์ให้สามารถพกพาได้สะดวก สามารถทำความเข้าใจได้ง่าย เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาดีมากขึ้น
จากนี้จะเป็นตารางสรุปการเปรียบเทียบการรักษาริดสีดวงทวารในระยะอาการต่าง ๆ เพื่อให้เข้าใจได้มากขึ้น รวมถึงมีการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายร่วมด้วย
โรคริดสีดวงทวารอาจจะไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงแต่มักจะก่อให้เกิดความรำคาญ และความกังวลใจ เนื่องจากอาการที่เป็นมักจะกลับมากำเริบโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วอะไรกันแน่เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการ และเราควรจะทำอย่างไรเพื่อให้อาการหายสนิท สิ่งต่างๆเหล่านี้หากเรามีการศึกษาข้อมูลและได้รับการรักษาที่ถูกต้องแล้ว จะทำให้เราสามารถควบคุมอาการและไม่กลับมาเป็นซ้ำได้นะคะ
ปุณรดายาไทยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลชุดนี้จะช่วยให้ผู้ที่มีอาการริดสีดวงเข้าใจถึงวิธีการรักษา รู้ข้อดี-ข้อเสียของการรักษาแต่ละแบบ และที่สำคัญคือได้เห็นแนวทางการรักษาที่หลากหลาย เพื่อจะได้เลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมกับตัวเองเพราะเราไม่อยากให้คุณกลับมาคิดว่า “รู้งี้...ดีกว่า” เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองกันนะคะ แต่ถ้าอ่านมาถึงจุดนี้แล้วยังตัดสินใจไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะเอาไงดี อยากได้คนช่วยคิด ช่วยแนะนำติดต่อมาหาเรานะคะ เรายินดีรับฟัง และให้คำปรึกษา
#เพราะเราเชื่อว่าทุกคนคู่ควรกับการมีสุขภาพที่ดี และมีความสุข
.gif?time=1710734124374)
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027
ทีมแพทย์แผนไทยปุณรดา
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "
ท่านจะได้รับทราบโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครทาง LINE@ พร้อมบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์แบบส่วนตัวฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.
