ตุ่มเล็กๆที่ปาก เป็นเริมหรือไม่?

หลาย ๆ คนที่เริ่มมีตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นบริเวณริมฝีปากเป็นครั้งแรก ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่ได้ไปทำอะไร ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงมีอาการขึ้นมา และอาจมีข้อมีสงสัยอีกมากมาย รวมถึงมีความกังวลว่าตกลงแล้วอาการที่เราเป็นคืออาการอะไร ใช่อาการของโรคเริมหรือเปล่า แล้วถ้าเป็นเริม เราติดเชื้อนี้มาได้อย่างไร วันนี้ปุณรดายาไทยจะมาไขข้อสงสัย และคลายความกังวลทั้งหมดให้ค่ะ

วิธีการสังเกตอาการเริมเริ่มต้นเลย คือ ตุ่มเริม จะเริ่มจากการเป็นตุ่มน้ำใส ผิวหนังบริเวณที่ตุ่มเริมขึ้นจะมีสีแดง มักจะขึ้นพร้อมกันทีละหลาย ๆ ตุ่ม ลักษณะเฉพาะของตุ่มเริมคือตรงกลางตุ่มน้ำใสจะมีหลุมเล็ก ๆ คล้ายกับสะดือ และมักจะมีอาการปวด แสบ ร้อน ร่วมด้วย หากใครที่มีตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นที่บริเวณปากต้องสังเกตลักษณะของตุ่มว่ามีลักษณะดังกล่าวไหมและต้องนึกถึงพฤติกรรมที่ผ่านมาประกอบด้วยว่ามีปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้เป็นสาเหตุการเกิดอาการเริมร่วมด้วยหรือเปล่า

ตุ่มเล็กๆที่ปาก เป็นเริมหรือไม่1

สาเหตุของการเกิดโรคเริม เกิดจากการได้รับเชื้อไวรัสเริมที่มีชื่อว่า Herpes Simplex Virus (HSV) มี 2 สายพันธุ์ ได้แก่ สายพันธุ์ที่มักจะขึ้นที่ริมฝีปาก (HSV- type 1) และสายพันธุ์ที่มักจะขึ้นที่อวัยวะเพศ (HSV- type 2) ซึ่งอาการแสดงของเริมทั้ง 2 สายพันธุ์มีอาการเหมือนกัน แตกต่างกันที่บริเวณของการเกิด การติดเชื้อเริมสามารถติดต่อได้ทางการสัมผัสโดยตรงกับผู้ที่กำลังมีอาการ เช่น การจูบ การมีเพศสัมพันธ์ การใช้แก้วน้ำหรือการใช้ช้อนร่วมกัน เป็นต้น นอกจากนี้ปัจจัยส่งเสริมที่ทำให้เป็นเริม คือ ช่วงที่รับเชื้อร่างกายมีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง เพราะโดยปกติภูมิคุ้มกันของคนเราสามารถต่อต้านกับเชื้อเริมได้ แต่หากอยู่ในช่วงที่พักผ่อนไม่เพียงพอ มีความเครียด อยู่ในช่วงที่กำลังเจ็บป่วย หรือในช่วงที่มีประจำเดือน ภูมิคุ้มกันของร่างกายจะอ่อนแอลงกว่าปกติจนไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อเริมได้ จึงทำให้เกิดอาการเริมขึ้น ซึ่งบางคนก็อาจมีอาการเริมที่บริเวณเดิมซ้ำ ๆ อยู่เรื่อย ๆ

ตุ่มเล็กๆที่ปาก เป็นเริมหรือไม่2

สำหรับ การรักษาโรคเริม ให้หายขาดยังไม่สามารถทำได้ เพราะเชื้อเริมจะซ่อนตัวอยู่ในร่างกายของผู้ที่ได้รับเชื้อไปตลอดชีวิต แต่เมื่อเราได้รับการรักษาอย่างถูกต้อง และเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อาการก็จะสามารถหายไปได้อย่างรวดเร็ว และสิ่งเราที่สามารถทำได้ต่อเนื่อง คือ การยับยั้งไม่ให้เชื้อแสดงอาการ โดยการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ พักผ่อนให้เพียงพอ และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพียงเท่านี้อาการเริมก็จะไม่แสดงอาการออกมาก่อให้เกิดความกังวลใจกับเราได้อีกเลยค่ะ