ในสถานการณ์ช่วง Covid-19 ระบาดแบบนี้ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพกายและสุขภาพใจของทุกคน ๆ วิธีการที่จะเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้เราสุขภาพแย่ลง คือ การที่เราต้องดูแลตัวเอง เสริมภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทั้งการเลือกรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ การรับประทานอาหารเสริม รวมถึงการออกกำลังกาย แต่การออกกำลังกายก็อาจจะเป็นความเสี่ยงได้ หากเราอยู่ในที่ ๆ มีคนเยอะ ๆ การสูดอากาศหายใจร่วมกับผู้ป่วยในสถานที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท จะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น แล้วการที่เราใส่หน้ากากออกกำลังกายร่วมด้วย จะช่วยได้หรือไม่ หรือจะเกิดผลเสียต่อร่างกายมากกว่ากัน .. ?!
ก่อนหน้านี้เคยมีงานวิจัยเกี่ยวกับที่ใช้การใส่หน้ากากออกกำลังกายมาทดสอบในนักกีฬา ซึ่งเป็นการวิจัยที่มีสาเหตุมาจากข้อสงสัยที่ว่าเหตุใดนักกีฬาที่มีถิ่นอาศัยอยู่บนพื้นที่สูงถึงสามารถเอาชนะการแข่งขันในกีฬาหลายประเภทได้ จึงเกิดการทดสอบการออกกำลังกายด้วยระบบจำลองสภาวะอากาศให้เสมือนอยู่บนที่สูง หรือ mountain simulater ซึ่งกลายมาเป็นวิธีพัฒนาสมรรถภาพทางกายให้มีประสิทธิภาพกว่าการฝึกทั่วไป จะทำให้ร่างกายมีแรงต้านทานอากาศมากขึ้น เพิ่มความจุของปอดและกระบังลม ร่างกายจะมีความอดทนและมีสมาธิมากยิ่งขึ้น ซึ่งมีทั้งการจำลองห้องออกกำลังกาย รวมถึงการฝึกแบบใส่หน้ากากออกกำลังกายสำหรับนักกีฬามืออาชีพทั่วโลก แต่การใส่หน้ากากแบบนี้จะต้องอยู่ในสภาวะที่มีการควบคุมวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสม รวมถึงมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแล แต่หากคุณเป็นนักกีฬา หรือผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ก็อาจจะสามารถฝึกฝนตามได้ แต่ควรที่จะเรียนรู้การฝึกอย่างถูกวิธีนะคะ
แต่หากคุณเป็นคนปกติ ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ ให้ลองนึกภาพตามว่า ในสภาวะปกติ เวลาเราใส่หน้ากากอยู่ ตอนขึ้นลงบันไดหรือพูดเยอะ ๆ ภายใต้หน้ากาก เราจะรู้สึกอึดอัด เพราะออกซิเจนภายในหน้ากากไม่เพียงพอ มีคาร์บอนไดออกไซด์สะสมมากเกินไป ฉะนั้นยิ่งการออกแรงเยอะแบบการออกกำลังกาย ก็จะยิ่งทำให้การหายใจลำบากมากขึ้น การใส่หน้ากากขณะการออกกำลังกายจึงค่อนข้างเป็นอันตรายสำหรับคนทั่วไป เนื่องจากจะทำให้อึดอัด หายใจลำบาก ปอดและหัวใจทำงานหนักมากขึ้น 2-3 เท่า จากการรับออกซิเจนไม่เพียงพอ ออกซิเจนในเลือดต่ำลง อาจเสี่ยงต่อภาวะหมดสติ ซึ่งจะอันตรายมากขึ้นสำหรับคนที่มีภาวะโรคหัวใจ และผู้สูงอายุ อาจจะเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้เช่นกัน
ในมุมมองทางการแพทย์แผนไทย หากร่างกายเรามีภาวะออกซิเจนในเลือดต่ำจะทำให้ แสดงถึงลมและความร้อนในร่างกายที่ไม่ปกติ ลมหายใจเข้า-ออกในร่างกายถือเป็นหนึ่งในลมที่สำคัญ ที่ควรจะมีภาวะที่สมดุล ลมจะพัดพาแลกเปลี่ยนความร้อนในร่างกายกับอากาศภายนอก ให้ทำร่างกายไม่ร้อนจนเกินไป สังเกตได้จากลมหายใจเข้าจะเย็นกว่าลมหายใจออก แต่หากเราใส่หน้ากากออกกำลังกาย อากาศที่มีความร้อนจะคงค้างอยู่ที่หน้ากากมากเกินไป หากเราสูดอากาศในหน้ากากเข้า ร่างกายก็จะยิ่งร้อนขึ้น สภาพร่างกายจะร้อนขึ้นเช่นกัน ส่งผลทำให้หัวใจ ปอด และสมองทำงานหนัก จนก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
1. หลีกเลี่ยงสถานที่มีคนพลุกพล่าน โดยรักษาระยะห่างมากกว่า 3 เมตรขึ้นไป หากเป็นการวิ่งหรือเดินออกกำลังกายควรห่างมากกว่า 10 เมตร เนื่องจากหากมีคนไอหรือจาม ฝอยละอองจะไปได้ไกลกว่าปกติ
2. ควรเลือกการออกกำลังกายที่ทำคนเดียวได้ โดยไม่ควรจับกลุ่ม หรือคุยกันโดยไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัย รักษาระยะห่างกับบุคคลอื่นแม้ไม่ได้อยู่ในช่วงออกกำลังกาย
3. หากต้องออกกำลังกายที่ยิมหรือฟิตเนส ควรทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ต้องหยิบจับทุกครั้ง หากสามารถหลีกเลี่ยงได้ ควรงดการใช้เครื่องออกกำลังกายร่วมกับผู้อื่น
4. รักษาสุขลักษณะ พกสบู่เหลว เจลล้างมือสำหรับทำความสะอาดทุกครั้งหากต้องไปสัมผัสสิ่งต่าง ๆ และเลี่ยงการสัมผัสใบหน้าโดยตรง
5. ประเมินสุขภาพของตัวเองอยู่เสมอ หากรู้สึกไม่สบายตัว ไอ หรือมีอาการผิดปกติควรงดการออกกำลังกาย ส่วนผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีประวัติโรคหัวใจ ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในที่สาธารณะในช่วงนี้
ถึงแม้ว่าสถานการณ์การแพร่กระจายของไวรัส covid-19 ในประเทศไทยจะไม่รุนแรงเทียบเท่าประเทศอื่น แต่ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่มาก เพราะเรายังมีการพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน ดังนั้นสิ่งที่เราต้องให้ความสำคัญมากที่สุดคือการป้องกันเพื่อลดการแพร่กระจายของไวรัส รวมถึงเราต้องสังเกตตัวเองและดูแลตัวเองอยู่เสมอ ทางปุณรดายาไทยขอเป็นกำลังใจและเป็นผู้ช่วยให้คำปรึกษาเรื่องสุขภาพสำหรับคุณอยู่เสมอ เราจะผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกันนะคะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 086-955-6366, 091-546-9415
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "