สวัสดีค่ะ หมอมายนะคะ หมอเคยเล่าให้ฟังถึงอาการและสาเหตุของโรคกรดไหลย้อนที่เกิดในช่วง WFH ไปแล้ว ในบทความนี้ คุณหมอขอเตือน WFH อาจทำให้คุณเป็นกรดไหลย้อน ถ้ายังไม่แน่ใจว่าอาการที่ตัวเองเป็นคือกรดไหลย้อนหรือเปล่า ลองเข้าไปอ่านแล้วเช็คอาการก่อนได้นะคะ แต่ถ้าแน่ใจแล้วว่าใช่แน่ ๆ หมอมีวิธีการรักษา ดูแลตัวเองง่าย ๆ ที่หายได้ภายใน 2 วันแบบหมอมายมาฝากกันค่ะ
1. ปรับพฤติกรรมที่ทำระหว่างวัน ถึงแม้ว่าบริเวณมีจำกัด ก็ต้องขยับตัวนะคะ พยายามเดินไปมาในห้อง ทำความสะอาดบ้าน จัดของ ยกของ จิบน้ำเรื่อย ๆ ตลอดวัน เพื่อให้ลุกเดินไปเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ ปรับเปลี่ยนท่าการทำงานเป็นยืนบ้าง นั่งบ้าง เปลี่ยนมุมที่นั่งทำงานบ้าง ระหว่างวันออกไปนั่งเล่นที่ระเบียง รับอากาศบริสุทธิ์ช่วงเช้า พยายามกระตุ้นให้ร่างกายกระตือรือร้น และเตือนตัวเองเสมอว่าต้องขยับและลุกเดินทุก ๆ 20 นาที โดยเฉพาะหลังทานอาหารเสร็จ เดินไปเดินมาอีกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง อย่าคิดว่า 1 ชั่วโมงยาวเกินไปนะคะ ตอนที่ไปทำงานปกติเราใช้เวลาบนรถมากกว่านี้อีกค่ะ หรือขยับออกกำลังในท่าง่าย ๆระหว่างเปิดซีรี่ส์ก็ได้ค่ะ
2. เปลี่ยนลักษณะอาหารที่ทาน รับประทานอาหารเป็นมื้อ ครบ 3 มื้อให้ตรงเวลา ไม่ทานมื้อเย็นหลัง 6 โมงเย็น เพราะจะใกล้เวลาเข้านอนมากเกินไป ทานปริมาณให้พออิ่ม เน้นทานผักต้มสุก เนื้อสัตว์ย่อยง่าย เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลา เคี้ยวอาหารให้ละเอียดมากขึ้น อย่างน้อย 20-30 ครั้งต่อ 1 คำ (ช่วงแรกอาจจะไม่ชิน แต่ทำบ่อย ๆ เป็นประจำจะดีต่อระบบย่อยเรามากเลยนะคะ) งดของทอดของมัน ของหวานทั้งหมดทันที เพราะยิ่งเรารับประทานอาหารเหล่านี้เข้าไป ร่างกายจะต่อต้านและแสดงออกมาให้เราเห็นชัดเจนเลยว่าอีกไม่เกิน 1 ชั่วโมง จะมีอาการจุกแน่นลิ้นปี่ และปวดท้องมากทันทีจากลมที่เพิ่มขึ้น จะทำให้เรารู้สึกว่าต้องงดทันทีเลย แบบไม่ต้องลังเล หมอแนะนำว่าอย่ายอมแลกระหว่างความสุขในการทานอาหารเหล่านี้เพียงแปบเดียว กับอาการจุกลิ้นปี่ไปอีกทั้งวันเลยนะคะ
3. ออกกำลังกายในห้อง ตอนนี้ไม่มีฟิตเนส ออกไปวิ่งไม่ได้ ก็เปลี่ยนวิธีการออกกำลังกายมาออกในห้อง 5-6 วันต่อสัปดาห์ วันละ 30-45 นาที เพื่อให้เลือดลมไหลเวียนได้ดี ฟื้นฟูระบบย่อยอาหาร และการดึงสารอาหารที่ทานเข้าไปออกมาใช้ โดยหาวิธีการออกกำลังกายในห้องโดยการใช้เสื่อโยคะ และศึกษาท่าออกกำลังกายต่าง ๆ ที่ทำได้ง่าย ๆ ในห้อง ที่ไม่มีการกระแทกเสียงดังรบกวนห้องด้านล่าง หรือห้องข้าง ๆ ลองเสิร์ชหาการออกกำลังแบบ low impact ใน Youtube นะคะ เป็นการออกกำลังแบบ Body weight ทำได้ง่าย ไม่มีแรงกระแทก ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มาก โดยใช้น้ำหนักของตัวเองมาเป็นแรงต้านทาน ใช้ในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และฟื้นฟูระบบการเผาผลาญไขมัน ยิ่งเรามีกล้ามเนื้อเยอะมากขึ้นเท่าไหร่ การดึงสารอาหารไปใช้ก็จะยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย ในเรื่องของการออกกำลังกาย หมอแนะนำว่าหาวิธีการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตัวเอง ออกกำลังกายแล้วมีความสุขไปกับมัน จะทำให้เราอยากออกกำลังกายทุกวัน คือสิ่งที่สำคัญที่สุดเลยค่ะ
4. ทานยาสมุนไพรช่วย อันนี้หมอแอบใช้ตัวช่วยนิดนึงค่ะ เพราะหมอชอบทานขนมหวาน (ไม่งั้นหัวไม่แล่น เนอะ) เพราะฉะนั้นถึงปรับพฤติกรรมตามข้อ 1-3 แล้วก็ยังเป็นๆ หายๆ โดยเฉพาะมื้อที่ทานของหวาน จะมีอาการปวดจุกลิ้นปี่มากอยู่ หมอเลย ทานยาสมุนไพร Balance 3 มื้อก่อนอาหารในวันที่ 3 ที่เริ่มมีอาการนี้ หลังจากที่ทานไปมื้อแรกรู้สึกว่าอาหารที่ทานเข้าไป เริ่มถูกย่อยเรื่อย ๆ ไม่แน่นท้องมากเหมือนเดิม แต่ยังคงมีอาการปวด จุกลิ้นปี่อยู่ เพราะตัวยากำลังเข้าไปย่อยอาหารเก่าที่ตกค้างในกระเพาะอยู่ และมีเรอออกมาเป็นกลิ่นสมุนไพรเรื่อย ๆ เพราะเป็นตัวยาที่เข้าไปช่วยย่อยอาหาร และขับลม กระจายลมและไฟย่อยที่คั่งค้างมาให้กระจายออกไปได้ดี และธาตุทั้ง 4 กลับมาทำงานได้ดีเหมือนเดิม หลังจากนั้นก็ทานมาเรื่อย ๆ อีก 2 มื้อในวันนั้น ตอนกลางคืนเริ่มรู้สึกว่าโล่งขึ้น หายใจได้ทั่วท้อง ไม่แน่นมากเหมือนเดิม วันที่ 4 ก็ได้ทานยา และปรับพฤติกรรมต่อเนื่องเคร่งครัด อาการเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ ตามลำดับ จนวันที่ 5 ทานยาก่อนอาหารเช้าตามปกติ หลังทานอาหารเช้าแล้ว สังเกตว่าไม่มีอาการจุกปวดแน่นลิ้นปี่มากแบบเดิมแล้ว อาการเป็นปกติไปเลย แสดงว่าเราได้รักษามาถูกทางแล้ว และควรใช้ชีวิตแบบนี้ต่อเนื่อง คือการดูแลสุขภาพจริง ๆ ไม่ละเลย ตามใจปากหรือความต้องการของตัวเองมากเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้อาการนี้กำเริบขึ้นมาอีก
ทั้งหมดนี้ที่มีอาการกรดไหลย้อนคือ 4-5 วัน พอมีอาการ หมอก็เริ่มจากการค่อย ๆ เริ่มปรับพฤติกรรมก่อน 2 วันแรก แต่ยังทำไม่ได้ทั้งหมดนะคะ มีแอบทานของหวาน ของทอดบ้าง ทำให้อาการยังเป็น ๆ หายๆ จึงตัดสินใจ รักษาด้วยการใช้ยาสมุนไพร เป็นตัวช่วย ใช้ระยะเวลาในการรักษาทั้งหมด 2-3 วัน และทานยาสมุนไพร Balance ต่ออีก 2 วัน จนอาการดีขึ้นและหายสนิทได้ในวันที่ 5 มาถึงตอนนี้หมอก็ยังไม่มีอาการแบบนั้นอีกเลยค่ะ เป็นเพราะว่าหมอรีบหาสาเหตุที่กระตุ้นอาการ ปรับพฤติกรรมอย่างเคร่งครัด และรักษาอาการได้เร็ว รวมถึงเพิ่งมีอาการครั้งแรก การรักษาครั้งนี้จึงใช้ระยะเวลาน้อยมากค่ะ
ประสบการณ์ทั้งหมดที่หมอมายยกมาแชร์ในวันนี้ อยากแนะนำให้กับผู้ที่กำลังมีพฤติกรรมการชีวิตในช่วงนี้ แบบที่หมอเคยเป็น รีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมกันเลยดีกว่านะคะ เพราะถ้าหากมีอาการแบบนี้ขึ้นมา ทรมานและต้องใช้เวลาฟื้นฟูระบบย่อยอาหารในร่างกายอีกซักระยะเลยค่ะ และสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มมีอาการแบบหมอ หรือผู้ที่มีอาการกรดไหลย้อนเรื้อรังมานานแล้ว อยากให้ลองนำวิธีการปรับตัวของหมอไปเป็นแนวทางในการปรับใช้ให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตประจำวันของทุกคนเลยนะคะ หากไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ทำอยู่ทำได้หรือไม่ กังวลว่าจะยิ่งทำให้อาการกำเริบหรือเปล่าสามารถปรึกษาหมอเข้ามาได้เลยนะคะ ปุณรดายาไทยยินดีรับฟังทุกปัญหาสุขภาพ พร้อมให้คำแนะนำ และหาแนวทางการรักษาให้กับทุกคน แล้วเราจะกลับมามีสุขภาพที่ดีจากภายในไปพร้อม ๆ กันนะคะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 086-955-6366, 091-546-9415
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "