การสูบบุหรี่ส่งผลต่อไซนัสอย่างไร

ทุกคนน่าจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าการสูบบุหรี่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะระบบทางเดินหายใจ การสูบบุหรี่ทำเสี่ยงต่อการเป็นไซนัสอักเสบมากขึ้น และในผู้ที่เป็นไซนัสอักเสบอยู่ บุหรี่อาจทำให้เนื้อเยื่ออักเสบและการติดเชื้อลุกลามไปยังส่วนอื่นๆเช่นนัยน์ตาและสมองได้ค่ะ อ่านเพิ่มเติมในบทความ 5 เรื่องไซนัสที่คุณควรรู้

ไซนัสคืออะไร สำคัญอย่างไร

ไซนัสเป็นอวัยวะหนึ่งที่สำคัญต่อร่างกายค่ะ ไซนัสมีหน้าที่ผลิตเมือกที่ทำหน้าที่เป็นไส้กรองในจมูกไม่ให้เชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมเข้าสูระบบทางเดินหายใจ เมือกเหล่านี้จะเป็นกาวคอยจับฝุ่นและขับออกมาเป็นน้ำมูก

การสูบบุหรี่ส่งผลอย่างไรต่อไซนัส

สูบบุหรี่_ส่งผลต่อไซนัสอย่างไร-2

1.การสูบบุหรี่ส่งผลต่อการทำงานของเนื้อเยื่อในโพรงจมูก

โพรงไซนัสและโพรงจมูกมีอวัยวะหนึ่งที่เรียกว่า ซีเลีย (cilia) คือส่วนของเซลล์ยื่นออกมามีลักษณะคล้ายขน ทำหน้าที่ขนย้ายสิ่งสกปรกเช่น ฝุ่น แบคทีเรีย และน้ำมูกออกจากโพรงไซนัสและจมูก สารจากควันบุหรี่อย่าง hydrogen, cyanide และ ammonia ทำให้ซีเลียหยุดทำหน้าที่

โดยปกติแล้ว ไซนัสจะผลิตเมือกประมาณวันละ 1 ลิตร เมือกเหล่านี้จะถูกขนย้ายโดยซีเลียลงไปทางลำคอและเข้าสู่ระบบย่อยอาหาร หรือออกมาทางจมูกเป็นน้ำมูก หากซีเลียหยุดทำงาน เมือกจะถูกสะสมอยู่ในโพรงไซนัสและจมูก เปิดโอกาสให้แบคทีเรียและไวรัสเจริญเติบโต นำไปสู่การเป็นไซนัสอักเสบ

2.การสูบบุหรี่ทำให้ร่างกายติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

การที่ซีเลียหยุดทำงานนั้น ทำให้ร่างกายขาดไส้กรองเชื้อโรค ไวรัสและแบคทีเรียต่างๆเดินทางเข้าสู่ร่างกายได้อย่างง่ายดาย ประกอบกับสารในบุหรี่ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลง ร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคที่สะสมอยู่ในโพรงไซนัสได้ ไม่สามารถขับเชื้อโรคออกมาได้ตามธรรมชาติ ดังนั้น ถึงแม้ว่าจะสุขภาพดีและออกกำลังกายเป็นประจำ แต่ผู้ที่สูบบุหรี่ก็จะเสี่ยงต่อการเป็นไซนัสอักเสบและโรคติดเชื้อทางเดินหายใจมากกว่าผู้ที่ไม่สูบ หากสูบบุหรี่ในขณะที่เป็นไซนัสอักเสบแบบเฉียบพลัน ก็จะมีโอกาสพัฒนาเป็นไซนัสอักเสบแบบเรื้อรังได้ง่าย เพราะร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อโรคได้นั่นเอง

3.การสูบบุหรี่ทำให้ไซนัสผลิตเมือกมากขึ้น

สารในควันบุหรี่เช่น Ammonia และ Formaldehyde ส่งผลให้ไซนัสผลิตเมือกมากขึ้น และไม่สามารถระบายออกมาได้เนื่องจากซีเลียไม่ทำงาน จึงเกิดการคั่งค้างของเมือกในไซนัส และมีอาการปวดร้าวบริเวณหน้าแก้ม หัวตาและหัวคิ้ว ถึงแม้ว่าไม่ได้สูบบุหรี่ แต่ได้รับควันบุหรี่มือสอง ก็ได้รับผลกระทบเช่นกันค่ะ

เมื่อมีเมือกในจมูกมากขึ้น จะทำให้เกิดอาการไวต่อสภาพอากาศและฝุ่นละอองมากขึ้น จะมีอาการน้ำมูกน้ำตาไหล และปวดไซนัสหนักขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะผู้ที่เป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว เมื่อได้รับควันบุหรี่ อาการจะกำเริบทันที

สูบบุหรี่_ส่งผลต่อไซนัสอย่างไร-3

4.การสูบบุหรี่อาจทำให้เกิดเสมหะในหลอดลม

เจ้าขนซีเลียนี้ขึ้นอยู่ตลอดทั้งหลอดลม ตั้งแต่โพรงจมูกจนถึงปอด เมื่อซีเลียไม่ทำงาน เสมหะที่อยู่ในหลอดลมจะไม่ถูกขับออกมา และอาจก่อตัวเป็นก้อนในหลอดลม ผู้ที่สูบบุหรี่จึงต้องขากเสมหะเป็นประจำ และในช่วงกลางคืนอาจเกิดอาการเสมหะเหนียวข้นอุดหลอดลมจนหยุดหายใจได้

นอกจากนี้การสูบบุหรี่จัดเป็นเวลานานอาจส่งผลให้เกิดมะเร็งโพรงจมูกหรือมะเร็งในโพรงไซนัส และทำให้การติดเชื้อในไซนัสแพร่ไปยังส่วนอื่นในร่างกายได้ง่าย (เนื่องจากภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง) หากการติดเชื้อในไซนัสแพร่ไปยังนัยน์ตา อาจทำให้ตาบอดได้ และหากการติดเชื้อกระจายไปยังเยื้อหุ้มสมอง ก็อาจทำให้เกิดอาการเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

ผู้ที่สูบบุหรี่จัดนั้นภูมิคุ้มกันและระบบทางเดินหายใจจะทำงานไม่ปกติ ถึงแม้ว่าหยุดสูบบุหรี่แล้ว ก็ยังต้องใช้เวลาหลายหลายปี ยิ่งสูบนานแค่ไหน เวลาในการฟื้นตัวของร่างกายก็จะยิ่งนานขึ้น แต่เซลล์หรือถุงลมบางส่วนในปอดที่ถูกทำลาย หรือทำให้โป่งพองไปแล้ว จะไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกกว่าที่สภาวะร่างกายจะกลับมาเป็นปกติ รู้แบบนี้แล้ว หยุดสูบบุหรี่กันตั้งแต่วันนี้ เพื่อสุขภาพของคุณและคนรอบข้างนะคะ

ส่วนภูมิคุ้มกันที่ร่างกายสูญเสียไปจากการสูบบุหรี่ สามารถกระตุ้นได้ด้วยการทานสมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน B-Boost ที่ปุณรดายาไทยพัฒนาสูตรขึ้นเพื่อทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง เนื่องจากผู้ป่วยหลายท่านเป็นโรคเรื้อรัง รักษาหายแล้วก็กลับมาเป็นอีกเพราะภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง การทาน B-Boost จะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรง ลดการเกิดโรคซ้ำ สามารถใช้เพื่อเสริมภูมิคุ้มกันในผู้ที่เป็นภูมิแพ้ ผู้ที่เป็นโรคผิวหนังลุกลาม เช่น เบาหวาน ฝี ผู้ที่เป็นโรคติดเชื้อเรื้อรัง เช่น งูสวัด และผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอจากการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือฉายแสง สมุนไพร B-Boost จะช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเชื้อ ช่วยฆ่าเชื้อและขับออกจากร่างกาย ลดอาการแพ้เคมีได้อีกด้วยค่ะ