เมื่อฤดูเปลี่ยน ทำให้อากาศที่กระทบกับธาตุทั้ง 4 เปลี่ยนไป เกิดความแปรปรวนของธาตุ ร่างกายก็จะแสดงออกมาเป็นไข้ค่ะ คนโบราณเรียกไข้แบบนี้ว่าไข้ 3 ฤดู หรือไข้หัวลม เมื่อผ่านช่วงเปลี่ยนฤดูไปแล้ว ร่างกายเราจะเริ่มชินกับอากาศ ก็จะป่วยเป็นไข้ได้ยากขึ้น
ระหว่างการเปลี่ยนฤดูนี้ เราสามารถเตรียมตัวรับมือกับอากาศที่เปลี่ยนไปได้ด้วยการทานอาหารและปรับพฤติกรรมค่ะ จะได้ไม่ป่วยเป็นไข้หัวลม ช่วงที่เป็นที่ไข้ ร่างกายอ่อนแอ จะมีโรคอื่นเข้าแทรกแซงได้ง่าย โดยเฉพาะผู้หญิง ถ้าเป็นประจำเดือนช่วงที่เป็นไข้ หรือที่เรียกว่าไข้ทับระดู จะอาการหนักมากเลยล่ะค่ะ
เมื่อเข้าฤดูฝน จากที่อากาศเคยแห้ง ความชื้นในอากาศก็สูงขึ้นจนความชื้นเข้าสู่ร่างกาย ไข้ในฤดูนี้จะมีสมุฏฐานมาจากวาโยเป็นใหญ่ที่สุด หมายความว่าอาการไข้มีสาเหตุมาจากธาตุลม อาการป่วยนอกจากมีไข้ตัวร้อน จะมีอาการหนาว เบื่ออาหาร รู้สึกกระอักกระอ่วน เจ็บเนื้อเจ็บตัว รู้สึกจุกเสียดเหมือนมีก้อนแข็งในท้อง
การดูแลสุขภาพเพื่อเตรียมเข้าสู่ฤดูฝนคือการเตรียมรับมือกับความชื้นที่เพิ่มขึ้น และการกำเริบของธาตุลมค่ะ ด้วยการทานอาหารรสเผ็ดร้อน เช่น ขิง กระเทียม ข่า ตะไคร้ และหลีกเลี่ยงรสอาหารที่แสลงกับโรคลม ได้แก่ รสเย็น รสเมาเบื่อ และอาหารที่ย่อยยากอย่างเนื้อวัว มื้อเช้าควรหลีกเลี่ยงแป้งขัดขาวนะคะ เพราะจะทำให้ลมกำเริบระหว่างวันได้ค่ะ
ไม่ควรตากฝนและอยู่ในที่ชื้น หากตากฝนควรรีบอาบน้ำและเช็ดผมให้แห้ง ไม่ควรสระผมตอนกลางคืน ห้องนอนควรเป็นที่ที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่อับลม
เมื่อเข้าฤดูหนาว ความชื้นที่มีอยู่ในอากาศก็ลดลงและอากาศจะเริ่มแห้ง ร่างกายของเรายังคงมีความชื้นหลงเหลือจากฤดูฝน พออากาศแห้ง ความชื้นและน้ำในร่างกายก็ข้นขึ้น ไข้ในฤดูนี้จึงมีสมุฏฐานมาจากเสมหะเป็นใหญ่ เกิดอาการเจ็บคอ เสมหะมาก หายใจไม่สะดวก ปอดบวม ปวดตามข้อต่อ (เพราะน้ำในข้อต่อแห้งลงในผู้สูงอายุ) มือเท้าเย็น
การดูแลสุขภาพช่วงเปลี่ยนฤดูคือต้องเตรียมความพร้อมกับอากาศที่แห้งลงค่ะ ดื่มน้ำให้มาก จิบน้ำอุ่นทั้งวัน ใส่เสื้อผ้าที่ให้ความอบอุ่น ทาผิวด้วยน้ำมันมะพร้าวหรือครีมบำรุงเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำระเหยออกไปจากร่างกายมาก อาหารที่ทานควรเป็นอาหารรสจืดและเปรี้ยวซึ่งมีสรรพคุณบำรุงธาตุน้ำ และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เสมหะกำเริบ ได้แก่ อาหารรสเย็น หวาน มัน เค็ม
นอกจากอากาศแล้ว ช่วงเปลี่ยนจากฤดูฝนเป็นฤดูหนาว เป็นช่วงที่คนป่วยเป็นไข้เพราะภูมิแพ้มากที่สุดด้วยค่ะ เนื่องจากเป็นช่วงผสมพันธุ์ของดอกไม้ ทำให้เกสรฟุ้งในอากาศค่อนข้างเยอะ ดังนั้นควรล้างตา ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเมื่อมีอาการภูมิแพ้ด้วยนะคะ สำหรับผู้ที่มีอากาศแพ้จนผื่นขึ้นผิวหนัง อาจเป็นเพราะน้ำเหลืองในร่างกายไม่ดี ควรรักษาอาการน้ำเหลืองเสีย แล้วจะไม่มีอาการแพ้อีกค่ะ
เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน อุณหภูมิของสิ่งแวดล้อมภายนอกจะเริ่มสูงขึ้น จากปกติที่กลไกภายในต้องรักษาร่างกายให้อุ่นจากอากาศภายนอกที่หนาว ๆ กลับต้องเปลี่ยนมาระบายความร้อนแทน ทำให้ไฟสันตัปปัคคี (ไฟที่ให้ความอบอุ่นร่างกาย) ทำงานหนักขึ้นและเกิดการกำเริบ ในช่วงเปลี่ยนฤดูนี้ ไข้ที่เกิดขึ้นมักจะมีสมุฏฐานปิตตะ โดยเฉพาะพัทธปิตตะหรือดีในฝัก คือไฟย่อยอาหาร อาจจะทำให้มีอาการไข้ ตัวร้อน กระหายน้ำบ่อย ร้อนใน ท้องเสีย
การดูแลสุขภาพในช่วงเข้าสู่ฤดูร้อนคือต้องลดอาหารรสร้อน และรสมันที่เคยทานในฤดูหนาวค่ะ เปลี่ยนมาเป็นอาหารรสเย็น และรสขม ซึ่งมีสรรพคุณรักษาพัทธปิตตะหรือน้ำดี ในช่วงเปลี่ยนฤดูนั้นควรงดกิจกรรมกลางแจ้งที่ต้องตากแดดไปก่อนค่ะ จนกว่าร่างกายจะปรับตัวเข้ากับอากาศฤดูร้อนได้ ค่อยทำกิจกรรมกลางแจ้ง
ศาสตร์แพทย์แผนไทยไม่ใช่แค่การรักษาโรคเท่านั้นนะคะ เป็นการดูแลสุขภาพรอบด้าน การทานอาหารตามรสยา เพราะการป้องกันโรคนั้นง่ายกว่ารักษา ปุณรดายาไทยอยากเห็นทุกคนมีสุขภาพดี สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ปรึกษาปุณรดาได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
อ้างอิง https://www.stou.ac.th/Schools/Shs/booklet/book542/thai.html
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 086-955-6366, 091-546-9415
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "