โดยปกตินั้น ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์สามารถกำจัดเชื้อราออกไปได้ แต่เพราะการแพทย์สมัยใหม่ มีการรักษาด้วยยากดภูมิ (immunosuppressive therapies) เช่นในการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายต่อต้านสิ่งแปลกปลอม ทำให้ภูมิคุ้มกันของผู้ที่เคยผ่านการผ่าตัดทำงานผิดปกติ การใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น ก็ทำให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง เมื่อภูมิคุ้มกันของร่างกายเปลี่ยนไป ทำให้เชื้อราหาทางเข้ามาอยู่ในโพรงจมูก และกัดกินเนื้อเยื่อได้ นี่เป็นสาเหตุให้ในช่วง 30 ปีมานี้มีรายงานการเกิดไซนัสอักเสบจากเชื้อรามากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ ผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง ภูมิคุ้มกันปกติ มีโอกาสเป็นไซนัสอักเสบจากเชื้อราน้อยมากค่ะ
• ผู้ที่เคยเข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ
• ผู้ที่ทานยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็น หรือทานไม่ครบ Dose ตามที่แพทย์กำหนด
• ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง
• ผู้ที่เคยเข้ารับการรักษาด้วยการฉายแสงหรือเคมีบำบัด
หากเป็นไซนัสจากเชื้อราจะรักษาได้ยากค่ะ เพราะไม่สามารถกำจัดได้ด้วยยาปฏิชีวนะ และการทานยาแก้อักเสบก็รักษาไม่ได้มากเพราะเชื้อรากัดกินเนื้อเยื่อจนเน่า แพทย์แผนปัจจุบันจะแนะนำให้ผ่าตัดเลาะเนื้อเยื่อที่เน่าตายออก แต่การผ่าตัดโพรงไซนัสก็เพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อในไซนัส เพราะโพรงไซนัสที่เคยซับซ้อนถูกเลาะเนื้อเยื่อออกจนกลายเป็นโพรงกว้าง เหมือนเปิดทางด่วนพิเศษให้กับเชื้อโรคเลยล่ะค่ะ อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความ เป็นไซนัสอักเสบ ซื้อยาทานเองอันตรายนะ
เชื้อราอาศัยอยู่ในที่อับชื้น สามารถกระจายอยู่ในอากาศได้ จึงหลุดเข้าไปในโพรงไซนัสไม่ยาก อาการของไซนัสอักเสบจากเชื้อรานั้นเหมือนกับไซนัสจากไวรัสและแบคทีเรีย ต่างกันตรงที่อาการจะไม่หายไป อาการจะกำเริบเป็นระยะๆ เพราะเชื้อรายังคงอยู่ บางรายอาจเป็นติดต่อกันหลายเดือน ไซนัสอักเสบจากเชื้อรามี 4 ประเภท แบ่งตามอาการ ดังนี้
Mycetoma fungal sinusitis
เป็นเชื้อราแบบที่ติดเชื้อแล้วทำให้ผิวหนังเป็นก้อนแข็ง คำว่า Mycetoma มาจากสองคำ คือ mycet = เชื้อรา และ oma = เนื้องอก มักจะเกิดขึ้นกับ Maxillary Sinus หรือโพรงไซนัสที่ใหญ่ที่สุด อยู่บริเวณหน้าแก้ม เชื้อราจะก่อตัวเป็นก้อนเหมือนลูกบอลงอกจากเนื้อเยื่อภายในโพรงไซนัส
ผู้ที่เป็นไซนัสอักเสบประเภทนี้จะแทบไม่มีอาการเลย เพราะก้อนเชื้อราไม่ได้ทำให้เกิดการอักเสบ (อาการคล้ายกับหูดบนผิวหนัง) แต่นานๆทีจะมีอาการปวดไซนัส หรืออาการหายใจไม่สะดวก ยิ่งทิ้งไว้นาน เชื้อราก็จะก้อนใหญ่ขึ้น แต่ไม่กระทบกับการใช้ชีวิต เพียงแค่โพรงจมูกและลำคอจะแห้งกว่าปกติเพราะไซนัสผลิตเมือกได้ไม่เต้มที่
Allergic fungal sinusitis (AFS)
เป็นไซนัสอักเสบจากเชื้อราแบบไม่ลุกลาม เกิดกับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันปกติที่เป็นเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบแบบเรื้อรัง ทำให้เชื้อราสามารถฝังตัวและแพร่พันธุ์อยู่บนเนื้อเยื่อที่อักเสบได้ อาการจะต่างจากไซนัสอักเสบชนิดอื่นตรงที่มีน้ำมูกเหลว ปนกับน้ำมูกข้น (ไซนัสอักเสบชนิดอื่นจะมีแต่น้ำมูกสีเขียวหรือสีเหลืองข้น) น้ำมูกเหลวนี้คือเมือกที่เชื้อราผลิตออกมา
อย่างไรก็ตาม ไซนัสแบบ AFS มักจะหายไปพร้อมกับอาการเยื่อบุโพรงจมูกอักเสบ เพราะภูมิคุ้มกันที่ปกติสามารถกำจัดเชื้อราออกไปได้เอง
Chronic indolent sinusitis
เป็นไซนัสอักเสบจากเชื้อราแบบลุกลาม เกิดกับผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันผิดปกติ เชื้อราจะเข้าไปฟักตัวในโพรงไซนัสจนเป็นก้อนเนื้ออักเสบที่เรียกว่า granulomatous แบบเดียวกับโรควัณโรค ซิฟิลิส โรคเรื้อน ก้อนเชื้อรานี้จะขยายตัวเรื่อยๆจนมีอาการหน้าบวม หรือใบหน้าผิดรูป
อาการของไซนัสชนิดนี้คือปวดหน้าแก้ม ปวดหัวคิ้ว ปวดเป็นพักๆ ในบางรายมีอาการแบบนี้เป็นปี เนื่องจากไม่มีเสมหะเหนียวข้นแบบไซนัสอักเสบธรรมดา ผู้ป่วยจึงไม่ทราบว่าเป็นไซนัสอักเสบ หากไม่รีบรักษาเชื้อราจะลุกลามไปยังนัยน์ตาและสมอง
Fulminant sinusitis
ไซนัสอักเสบจากเชื้อราประเภทนี้มักเกิดกับผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HIV หรือเกิดกับผู้ป่วยหลังผ่าตัดเปลี่ยนถ่ายอวัยวะที่ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน ทำให้เชื้อราลุกลามอย่างรวดเร็วเข้าไปในกระดูกและเนื้อเยื่อรอบข้าง ส่งผลให้ตาบอดและเชื้อรากินเยื้อหุ้มสมอง
จะเห็นได้ว่า ภูมิคุ้มกันนั้นมีบทบาทสำคัญที่สุดในการรักษาไซนัสอักเสบจากเชื้อรา การผ่าตัดไม่ใช่คำตอบสุดท้าย ปุณรดายาไทยรักษาไซนัสอักเสบมาแล้วทุกประเภท โปรแกรมสมุนไพรของเราเริ่มตั้งแต่การรักษา จนไปถึงการปรับภูมิคุ้มกัน ไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำ
เริ่มด้วยสมุนไพรรักษาไซนัสอักเสบ B-Breath ที่มีสรรพคุณลดการอักเสบ ขับหนอง ฆ่าเชื้อ ฟอกเลือด ขับสารพิษออกจากร่างกาย ใช้ร่วมกับสมุนไพรเสริมภูมิคุ้มกัน B-Boost ตำรับขึ้นชื่อของปุณรดายาไทย ใช้ปรับภูมิคุ้มกันเพื่อรักษาโรคเรื้อรังโดยเฉพาะ
ปุณรดายาไทยพัฒนาสมุนไพร B-Boost เพราะเรารู้ดีว่า ปัจจัยการเกิดโรคซ้ำคือภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรง ไม่ว่าจะเป็น ไซนัสอักเสบ ริดสีดวง ภูมิแพ้ สะเก็ดเงิน เริม โรคที่เกิดซ้ำๆแบบนี้ในทางแพทย์แผนไทยเรียกว่า “อสาทิยะอชินชวร” ซึ่งมีสาเหตุมาจากความไม่สมดุลกันของธาตุทั้งสี่ (ดิน น้ำ ลม ไฟ) สมุนไพร B-Boost จะช่วยปรับธาตุและฆ่าเชื้อ เพิ่มความแข็งแรงให้เม็ดเลือดขาว ลดอัตราการเกิดโรคซ้ำ
B-Boost ประกอบด้วยสมุนไพรคุณภาพสูง อาทิ
พลูคาว - สุดยอดสมุนไพรเสริมภูมิกัน โบราณใช้แก้ไข้พิษ แก้โรคติดเชื้อ สรรพคุณทางวิทยาศาสตร์สามารถฆ่าเชื้อไวรัสและสนับสนุนการทำงานของเซลล์ภูมิคุ้มกัน
เหงือกปลาหมอ - แก้อาการน้ำเหลืองเสีย หรืออาการภูมิแพ้นั่นเอง ทำให้น้ำเหลืองทำงานปกติ ขับพิษออกจากของเหลวในร่างกาย
แกแล - ฟอกโลหิต ระบายพิษในโลหิต ระบายเสมหะ
โกฐน้ำเต้า - แก้ธาตุพิการ ระบายเลือดเก่าที่คั่งค้าง คายพิษในธาตุ ในอดีตใช้เป็นยาถอนพิษ
หัวแห้วหมู - แก้ปวด บรรเทาอาการพิษไข้ ลดอาการคันตามผิวหนัง คันหู คันตาเมื่อภูมิแพ้กำเริบ
และสมุนไพรอื่นๆกว่า 20 ชนิด
ปุณรดายาไทยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพตามธาตุเจ้าเรือน ก่อนจ่ายยาสมุนไพรนั้น เราจะคำนวณธาตุเจ้าเรือน คูณธาตุเพื่อหาธาตุหย่อน ธาตุกำเริบ และจัดยาปรับธาตุให้ซึ่งแต่ละคนจะใช้ปริมาณยาไม่เท่ากันค่ะ แนะนำให้ปรึกษาทีมแพทย์ของเราก่อนซื้อสมุนไพรทานนะคะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "