1. ถ่ายออกเป็นเลือดสด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาท้องผูกหรือท้องเดิน หรือนั่งเบ่งถ่ายแรงๆ เลือดจะออกเฉพาะในช่วงที่เบ่งถ่าย หลังถ่ายเสร็จเลือดจะหยุดไหล ขณะนั่งถ่ายอุจจาระอาจสังเกตเห็นมีเลือดแดงๆเปื้อนกระดาษชำระหรือติดที่ผิวของก้อนอุจจาระ หรือมีเลือดไหลเป็นหยดลงในโถส้วม มักออกเป็นเพียงบางครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาท้องผูกหรือท้องเดิน หรือนั่งเบ่งถ่ายแรงๆ เลือดจะออกเฉพาะในช่วงที่เบ่งถ่าย หลังถ่ายเสร็จเลือดจะหยุดไหล
2. พบหัวริดสีดวง ยื่นออกมาขณะขับถ่าย หรือออกมาภายนอกตลอดเวลา
3. มีอาการปวด บวม เจ็บ อักเสบ คันบริเวณทวารหนัก หรือมีอาการบวม แน่น ภายในรูทวารทั้งในช่วงที่ขับถ่ายและไม่ขับถ่าย
ทวารหนักมีรอยปริแตก จะมีอาการถ่ายออกเป็นเลือดสดและปวดที่ทวารหนักร่วมด้วย มีอาการกำเริบขณะท้องผูกแบบเดียวกับริดสีดวงทวาร โรคนี้ไม่มีอันตรายร้ายแรง
มะเร็งลำไส้ใหญ่ อาจมีอาการถ่ายออกเป็นเลือดสดแบบเดียวกับริดสีดวงทวาร พบในคนอายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไป บางครั้งอาจมีอาการท้องผูกหรือท้องเสียเรื้อรัง หากสงสัยควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
“การรักษาโรคทุกโรคให้หายขาด 100% คนไข้ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ตัวยาที่ทานเข้าไปเพื่อรักษาโรคนั้นๆ ช่วยได้เพียง 50% ส่วนอีกครึ่งหนึ่งคนไข้ต้องช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเสี่ยงต่างๆ ตามที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ ปุณรดายาไทยมี คู่มือการรักษาริดสีดวงทวาร มาฝากค่ะ
เพราะโรคริดสีดวงทวาร สามารถกลับมาเป็นซ้ำอีกได้ทุกเมื่อ หากยังคงมีพฤติกรรมเสี่ยง เช่น การปล่อยให้ท้องผูกเป็นประจำ การเบ่งถ่ายแรงๆ การนั่งนานๆ และการทานอาหารแสลง ทั้งหมดนี้ล้วนส่งผลให้เกิดริดสีดวงทวารได้ทั้งสิ้น ดังนั้น แม้แต่เรื่องอาหารการกิน เราก็ไม่ควรประมาท แต่ควรรักษาสุขภาพให้ดีอยู่เสมอนะคะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "