งูสวัดเกิดจากการติดเชื้อไวรัสวาริเซลลา ซึ่งเป็นเชื้อตัวเดียวกับโรคอีสุกอีใส แต่อาการจะต่างออกไปค่ะ
อีสุกอีใสจะมีอาการคัน แต่งูสวัดจะมีอาการปวดมากกว่า และจะปวดบริเวณใต้ผื่น ส่วนอาการคันในงูสวัดจะมีในช่วงแผลตกสะเก็ด หากแกะเกาแผลอาจทำให้เกิดรอยแผลเป็น หรือติดเชื้อได้
1. ระยะที่หนึ่ง ปวดปลายประสาท
3 วันแรก ผู้ป่วยจะมีอาการปวดแสบปวดร้อนบริเวณผิวหนัง แต่ไม่มีผื่น มีความรู้สึกเหมือนถูกไฟช็อต
2. ระยะที่สอง เป็นไข้ มีผื่นแดง
ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ขึ้นเป็นพักๆ รู้สึกแสบร้อนบริเวณผิวหนัง มีผื่นแดงขึ้น รู้สึกเจ็บเนื้อเจ็บตัว
3. ระยะที่สาม มีตุ่มน้ำ ปลายประสาทอักเสบ
ผื่นแดงจะเริ่มกลายเป็นตุ่มน้ำใสขึ้นเป็นกลุ่มหรือแนวยาวตามปลายเส้นประสาทคล้ายงูเลื้อย มีอาการปวดบริเวณผื่นมากเนื่องจากปลายประสาทอักเสบ
4. ระยะตกสะเก็ด
เมื่อเวลาผ่านไป 10 - 15 วัน แผลตุ่มน้ำใสจะเริ่มตกสะเก็ด ในบางรายอาจมีแผลเป็นรอยดำ โดยเฉพาะที่มีอาการน้ำเหลือง และผู้ที่ทานอาหารแสลง
ในบางรายที่ภูมิคุ้มกันไม่ค่อยแข็งแรง หรือมีภาวะอื่นอยู่แล้ว เช่น เบาหวาน ความดัน รวมถึงที่มีอาการน้ำเหลืองเสีย โรคงูสวัดจะหายช้า และอาจมีโรคแทรกซ้อนอื่นได้
ควรทานสมุนไพรรักษาโรคงูสวัด B-Treat เพื่อช่วยให้แผลแห้งเร็ว ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น ลดการอักเสบของปลายประสาท ฟอกน้ำเหลือง ยิ่งทาน ยิ่งสุขภาพดี
ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 086-955-6366, 091-546-9415
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "