อัมพาตใบหน้า อาการข้างเคียงจากงูสวัด

วิธีดูแลสุขภาพตามหลักแพทย์แผนไทย

อัมพาตใบหน้า อาการข้างเคียงจากงูสวัด

กระแสข่าวโรคงูสวัดที่ได้รับความสนใจกันมากในช่วงนี้คงหนีไม่พ้นข่าวของนักร้องและนักแต่งเพลงชื่อดังชาวแคนาดา จัสติน บีเบอร์ ซึ่งออกมาเปิดเผยว่าเขามีอาการอัมพาตที่ใบหน้าซีกขวา (Bell's palsy) จากกลุ่มอาการ Ramsay Hunt syndrome ที่เกิดจากงูสวัด

 

หลายคนคงสงสัยว่าโรคงูสวัดทำให้เป็นอัมพาตใบหน้าได้อย่างไร มีวิธีสังเกตอาการ หรือการดูแลตนเองเพื่อป้องกันการเกิดโรคอย่างไร วันนี้หมอจะขอมาอธิบายให้ทราบกันนะคะ


 

โรคงูสวัดคืออะไร ทำให้เป็นอัมพาตใบหน้าได้อย่างไร


งูสวัด เป็นโรคผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ที่มีชื่อว่า Varicella-Zoster virus (VZV) ซึ่งเป็นเชื้อไวรัสตัวเดียวกับที่ก่อให้เกิดโรคอีสุกอีใส โดยเชื้อไวรัสนี้จะซ่อนตัวอยู่ในปมประสาทสันหลัง เมื่อใดที่ภูมิคุ้มกันต่ำ ร่างกายอ่อนแอลง หรือนอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ก็จะไปเพิ่มจำนวนเชื้อตามเส้นประสาทที่มันซ่อนตัวอยู่ และแสดงออกเป็นตุ่มน้ำใสที่ผิวหนังมีลักษณะคล้ายงูเลื้อย โดยแนวเส้นประสาทที่พบบ่อย ได้แก่ บริเวณเอว ก้นกบ ต้นขา และใบหน้า

 

เมื่อเชื้อไวรัสชนิดนี้เข้าไปจู่โจมที่เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ซึ่งเป็นเส้นประสาทใบหน้าใกล้หูข้างใดข้างหนึ่ง ที่มีหน้าที่เลี้ยงกล้ามเนื้อใบหน้า ส่งผลให้กล้ามเนื้อใบหน้าอ่อนแรงครึ่งซีก เกิดเป็นอัมพาตใบหน้า หรือ Bell's palsy และทำให้หูข้างที่โดนผลกระทบสูญเสียการได้ยิน เป็นอาการข้างเคียงจากงูสวัดซึ่งมีชื่อเฉพาะทางการแพทย์ของอัมพาตใบหน้าที่เกิดจากงูสวัดว่า Ramsay Hunt syndrome (แรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม)


 

วิธีสังเกตอาการ Ramsay Hunt syndrome


สำหรับผู้ที่เคยเป็นอีสุกอีใส หรืองูสวัดมาก่อน สามารถสังเกตอาการ Ramsay Hunt syndrome ได้ดังนี้

 

• มีผื่นแดงและตุ่มน้ำใสขึ้นบริเวณรอบหูข้างหนึ่ง

• ปวดแสบปวดร้อนบริเวณผื่น

• ปวดหู หูอื้อ เวียนศีรษะ บ้านหมุน สูญเสียการได้ยิน

• หลับตาข้างเดียวลำบาก

• ปากและตาแห้ง

• เสียการรับรู้รสชาติอาหาร

• ใบหน้าอ่อนแรง หรือเป็นอัมพาตด้านเดียวกับหูข้างที่เป็น

 

หากมีอาการเหล่านี้ต้องรีบรักษาภายใน 72 ชั่วโมงหลังจากเกิดอาการ เพราะการรักษาตั้งแต่แรก ๆ จะทำให้ได้รับผลการรักษาที่ดีกว่า หากปล่อยไว้อาจเกิดอาการที่รุนแรงขึ้น เช่น สูญเสียการได้ยินและเป็นอัมพาตใบหน้าถาวร ปวดตา ตาพร่ามัว และปวดปลายประสาท

 

 

วิธีการดูแลตนเองเพื่อป้องกันการเกิดโรค


1. เลี่ยงการสัมผัสหรือรับเชื้ออีสุกอีใสจากผู้มีอาการ

2. หากเคยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน จำเป็นต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรง โดยการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

3. หลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นอาการ เช่น อารมณ์เครียดหรือความวิตกกังวล ถูกแดดจัด การได้รับยากดภูมิคุ้มกันโดยไม่จำเป็น เช่น สเตียรอยด์

4. ในเด็กหรือผู้ใหญ่ที่ไม่เคยเป็นอีสุกอีใสมาก่อน สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส เพื่อป้องกันการเกิดงูสวัดในอนาคตได้

5. ในผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด ซึ่งป้องกันโรคได้ต่อเนื่อง 5 ปี

 

กลุ่มอาการแรมเซย์ ฮันต์ ซินโดรม (Ramsay Hunt syndrome) เป็นอาการอัมพาตใบหน้าที่มีผลข้างเคียงจากโรคงูสวัด แม้ไม่ได้พบบ่อยแต่ก็ควรระวัง หมั่นดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยการนอนหลับผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียด วิตกกังวล ออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพราะหากมีอาการจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาและฟื้นฟูร่างกาย รวมถึงอาจเกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงมากตามมาหากรักษาช้า หรือรักษาไม่ถูกวิธีนะคะ

 

หากมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อหมอโดยตรงได้ที่  Line ID : @Poonrada ได้เลยนะคะ หมอยินดีให้คำปรึกษาค่ะ

 

ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

 

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027

 


ทีมแพทย์แผนไทยปุณรดา

สุรดา เลิศเกศราธรรม

ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร

"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"

พท.ป.เอกพล ศิริพงษ์เวคิน

แพทย์แผนไทยประยุกต์

" ใส่ใจทุกความต้องการ ดูแลเหมือนคนในครอบครัว "

นศ.พท.ป. สุพัชชา พรมน้ำ

แพทย์แผนไทย

" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "


ปุณรดา ยาไทย
แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด

ท่านจะได้รับทราบโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครทาง LINE@ พร้อมบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์แบบส่วนตัวฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.

ข้อความถึงร้าน


× คุณได้เพิ่มสนค้าลงตะกร้า ดูสินค้าในตะกร้า