กระแสข่าวโรคระบาดที่เป็นที่พูดถึงในตอนนี้หลายคนคงเคยได้รับทราบกันบ้างแล้วกับ “โรคฝีดาษลิง หรือฝีดาษวานร” ที่กำลังระบาดอยู่ในแถบทวีปแอฟริกาและยุโรป
เชื่อว่าหลายคนคงอยากรู้ข้อมูลรายละเอียดอาการโรค วิธีการป้องกัน การรักษา และโอกาสเสี่ยงของคนไทยในการติดเชื้อฝีดาษลิง วันนี้หมอมาจะมาอธิบายรายละเอียดให้ทุกท่านได้อ่านกันนะคะ
ในช่วง 2 สัปดาห์แรก หลังจากได้รับเชื้อเข้าสู่ร่างกาย
• จะมีไข้สูง หนาวสั่น
• ปวดศีรษะ
• เจ็บคอ
• ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
• อ่อนเพลีย
หลังจากนั้น 2-3 วัน
• จะมีอาการต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งสามารถคลำพบได้หลายบริเวณ เช่น คอ ใต้คาง
หน้า-หลังใบหู รักแร้ และขาหนีบ
• มีผื่นหรือตุ่มน้ำใสขึ้นตามใบหน้า ลามไปส่วนอื่นๆของร่างกาย ลำตัว ฝ่ามือ ฝ่าเท้า และเยื่อบุต่างๆ เช่น เยื่อบุโพรงจมูก เพดานปาก ลิ้น กระพุ้งแก้ม บางรายอาจมีอาการเจ็บและคันร่วมด้วย
• ต่อจากนั้นจะกลายเป็นตุ่มหนอง และตกสะเก็ดในลำดับต่อมา
หลังจากติดเชื้อจะมีอาการเหล่านี้ประมาณ 2-4 สัปดาห์ และสามารถหายได้เอง แต่อาจทิ้งรอยแผลเป็นไว้ได้เช่นเดียวกับโรคอีสุกอีใส
ในส่วนของการรักษาโรคฝีดาษลิงในปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาที่เฉพาะเจาะจง แต่โดยปกติโรคฝีดาษลิงเป็นแล้วสามารถหายได้เองภายใน 2-4 สัปดาห์
ผู้ที่เคยฉีดวัคซีน หรือปลูกฝีเพื่อป้องกันฝีดาษ (ไข้ทรพิษ) มาก่อนสามารถป้องกันการติดเชื้อและลดระดับความรุนแรงโรคฝีดาษลิงได้มากกว่า 95% (ซึ่งการปลูกฝีดาษมีการยกเลิกโดยองค์การอนามัยโลกเมื่อปี 2523)
สำหรับผู้ที่ไม่เคยฉีดวัคซีนหรือปลูกฝีเพื่อป้องกันโรคฝีดาษ (ไข้ทรพิษ) ที่มีความเสี่ยงสูงในการติดเชื้อฝีดาษลิง จะได้รับการฉีดวัคซีนโรคฝีดาษเพื่อลดความรุนแรงของโรค จ่ายยาต้านไวรัส และรักษาอาการโรคตามการประเมินของแพทย์แผนปัจจุบัน
แม้ในปัจจุบันจะมีการติดเชื้อฝีดาษลิงหลายประเทศทางฝั่งแอฟริกาและยุโรป แต่ยังไม่มีข้อมูลการติดเชื้อฝีดาษลิงในประเทศไทย สำหรับแผนรับมือของฝีดาษลิงในประเทศไทย ทางกระทรวงสาธาณสุขได้มีการจัดส่งศูนย์เฝ้าระวังฉุกเฉิน คัดกรองผู้เดินทางที่มีจากประเทศเสี่ยง รวมถึงประเทศในทวีปแอฟริกากลางและแอฟริกาตะวันตก กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์มีการเตรียมวัคซีนเพื่อลดความรุนแรงของโรค และทางกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มีการตรวจสุขภาพลิงในประเทศ และห้ามขนย้ายสัตว์ข้ามแดนที่ผิดกฏหมาย
หากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปในประเทศเสี่ยง หรือต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีความเสี่ยงสามารถป้องกันได้ดังนี้ค่ะ
1.หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์
2. สวมหน้ากากอนามัย
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือรับประทานสัตว์ที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่สัตว์ตระกูลลิง และสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก กระแต กระต่าย
4. แยกของใช้ส่วนตัวไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่น
5. หลีกเลี่ยงการสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น น้ำมูก น้ำตา น้ำลาย และบาดแผลจากสัตว์หรือผู้ที่มีประวัติเสี่ยง
โรคฝีดาษลิงแม้จะมีความรุนแรงน้อยและยังไม่พบผู้ติดเชื้อในไทย แต่ก็ควรระมัดระวัง ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง หมั่นล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ สวมหน้ากากอนามัย รวมถึงการเลี่ยงสัมผัสสัตว์พวกลิง หนู กระรอก และผู้ที่มีความเสี่ยงนะคะ
หากมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อหมอโดยตรงได้ที่ Line ID : @Poonrada ได้เลยนะคะ หมอยินดีให้คำปรึกษาค่ะ
ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "