เจ็บรูทวาร อุจจาระแล้วเจ็บ ใครมีอาการเหล่านี้บ้างคะ?
ช่วงนี้มีคนไข้เข้ามาปรึกษาอาการอุจจาระแล้วเจ็บทวารค่อนข้างเยอะเลยค่ะ โดยส่วนใหญ่จะเป็นคนไข้ที่มีประวัติท้องผูก ต้องเบ่งถ่ายเป็นประจำ หรือท้องเสียเรื้อรัง บางรายอาจมีเลือดออกหลังขับถ่าย หรือมีเลือดติดกระดาษชำระด้วย วันนี้หมอจะมาอธิบายว่าเป็นอาการของโรคใด และรักษาได้อย่างไรบ้างนะคะ
อาการเจ็บรูทวาร อุจจาระแล้วเจ็บ มีโอกาสเป็นได้หลายโรคด้วยกัน และมีโรคหนึ่งที่เกิดได้บ่อยแต่มักไม่ค่อยพูดถึงนั่นก็คือ “โรคแผลปริขอบทวาร” โรคนี้มีสาเหตุเกิดจากการท้องผูก เบ่งถ่าย ถ่ายเหลวเรื้อรัง หรือผู้ที่มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ก็มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดอาการนี้ได้เช่นกัน การเสียดสีของอุจจาระกับเนื้อเยื่อที่ทวารหนัก และแรงเบ่งที่มากเกินไป รวมถึงการสอดใส่ในทวารหนัก ทำให้เกิดแผลปริ หรือแผลฉีกขาดที่ขอบทวาร ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บ ในบางรายจะมีเลือดออกหลังอุจจาระ เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ หรือมีเลือดติดกระดาษชำระได้ บางครั้งอาจมีแผลปริขอบทวารร่วมกับริดสีดวงทวารด้วย
สำหรับการรักษาทางการแพทย์แผนไทยจะเป็นการรักษาตั้งแต่ต้นเหตุโดยการให้ปรับพฤติกรรมการขับถ่ายให้เป็นปกติ โดยการรับประทานผักและผลไม้ที่มีกากใยสูง ดื่มน้ำให้เพียงพอ ออกกำลังกาย เลี่ยงการกลั้นอุจจาระ ขับถ่ายให้เป็นเวลา ช่วงที่มีอาการควรเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักไปก่อน เพื่อให้แผลหายได้เร็ว และลดการติดเชื้อซ้ำซ้อน กรณีที่มีอาการเจ็บมาก จากอุจจาระแข็ง หมอแนะนำการรักษาด้วย
หากมีอาการของแผลปริขอบทวารไม่ควรนิ่งนอนใจปล่อยไว้เรื้อรัง เพราะจะรักษาได้ยาก ต้องใช้เวลารักษานาน ในระหว่างการรักษาหมอแนะนำปฏิบัติตัวดังนี้ค่ะ
• ทานยาและใช้ยาอย่างถูกต้องต่อเนื่อง แช่ก้นด้วยผงแช่ก้นผสมน้ำอุ่น ครั้งละ 10-15 นาที เป็นประจำ เช้า-เย็น ก่อนอาบน้ำ
• ทานผักผลไม้เป็นประจำทุกมื้อ โดยควรทานเป็นผักปรุงสุก และผักผลไม้ที่มีกากใยสูง เช่น มะละกอ กล้วย แอปเปิ้ล แก้วมังกร เพื่อช่วยให้อุจจาระนิ่มถ่ายง่าย
• ปรับการดื่มน้ำให้มากกว่า 2 ลิตรต่อวัน พยายามจิบน้ำดื่มตลอดวัน จะช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานได้ดี
• ออกกำลังกายสม่ำเสมอเพื่อช่วยกระตุ้นให้ลำไส้ทำงานปกติ เช่น โยคะ ว่ายน้ำ
• เลี่ยงการยกของหนัก และการยกเวท เพราะทำให้เกิดแรงดันภายในช่องท้องมากขึ้น
• เลี่ยงการสอดใส่สิ่งแปลกปลอมทางทวารหนัก เพราะส่งผลให้เกิดแผลปริมากขึ้นได้
• ฝึกขับถ่ายให้เป็นเวลา เลี่ยงการกลั้นอุจจาระ หากต้องมีการนั่งทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน แนะนำเปลี่ยนอิริยาบถทุกๆ 1-2 ชั่วโมง เพื่อลดการกดทับบริเวณแผล และช่วยป้องกันแผลอับชื้น
• หลีกเลี่ยงการทานผักดิบ อาหารแสลง เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำปลาหวาน สะเดา หรือผักรสขมจัด เพราะอาหารเหล่านี้ส่งผลให้อุจจาระแข็ง ถ่ายยาก หรือการขับถ่ายไม่ปกติ และเพิ่มการอักเสบให้แผล ทำให้แผลหายช้า
เป็นแผลปริขอบทวารสามารถรักษาให้หายสนิทได้ โดยสิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาอย่างถูกวิธีต่อเนื่องจนหายสนิท ร่วมกับการปรับพฤติกรรม หากใครที่กำลังเป็นแผลปริขอบทวารสามารถเข้ามาปรึกษากับเราได้นะคะ ทางปุณรดายาไทยมีทีมแพทย์แผนไทยผู้เชี่ยวชาญในการรักษา พร้อมดูแลให้คำปรึกษา
ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "