แผลปริปากช่องคลอด สามารถเกิดได้ในคุณแม่หลังคลอดที่คลอดแบบธรรมชาติ หรือ หลังการมีเพศสัมพันธ์ อาจจะเป็นปัญหาที่หลายคนกังวลใจเพราะเกิดขึ้นในบริเวณจุดซ่อนเร้น เมื่อมีอาการแล้วแผลอาจจะหายช้า หรือมีโอกาสจะติดเชื้อได้ถ้าไม่ได้ดูแลให้ดี
วันนี้หมอจะมาแนะนำ 11วิธีในการดูแลแผลปริปากช่องคลอด หรือแผลปริฝีเย็บสำหรับคุณแม่หลังคลอดกันนะคะ
• หลังจากคลอดบุตรด้วยวิธีคลอดแบบธรรมชาติในคุณแม่หลังคลอด โดยปกติคุณหมอและพยาบาลที่ดูแลจะทำการเย็บฝีเย็บหลังจากคลอดเรียบร้อยแล้ว แต่บางครั้งหลังจากกลับมาพักฟื้นที่บ้าน หากคุณแม่มีกิจกรรมเช่น ยกของ นั่งยอง ๆ นั่งขัดสมาธิ หรือ ออกกำลังกายที่ต้องใช้ช่วงล่างเลยในช่วงสัปดาห์แรก อาจจะมีโอกาสทำให้แผลฝีเย็บปริออกได้ จึงควรระวังให้มาก เพราะมีโอกาสที่จะติดเชื้อได้ง่าย
• แผลปริปากช่องคลอดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ มีโอกาสเกิดได้ในทุกเพศที่มีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ซึ่งมีด้วยกันหลายสาเหตุ เช่น มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้เตรียมตัวก่อน ช่องคลอดแห้งเกินไป มีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรง สอดใส่สิ่งแปลกปลอมในช่องคลอด เป็นต้น
1. สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่แผลฝีเย็บปริ ไหมหลุด มีเลือดไหล เลือดซึม หรือปวดบริเวณฝีเย็บควรรีบติดต่อพบแพทย์ทันที เพื่อให้แพทย์ดูแลแผลให้ หากแผลปริไม่มาก แผลเริ่มสมานแล้วหมอจะให้สังเกตอาการ ให้ยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อและแนะนำให้ระมัดระวังมากขึ้น หากแผลปริมาก อาจจะต้องเย็บทำการซ่อมแซ่มแผลใหม่อีกครั้ง
2. แผลปริปากช่องคลอดหลังมีเพศสัมพันธ์ ควรตรวจเช็คดูว่าอาการมีการอักเสบ บวม แดง หรือเจ็บปวดบริเวณแผลมากไหม หากมีมากควรพบแพทย์ให้ช่วยประเมินอาการเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
3. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงนี้ไปก่อนเนื่องจากจะทำให้แผลปริที่ช่องคลอดมีอาการรุนแรงขึ้น แผลหายช้า และเสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ง่าย รอจนแผลหายดีจึงจะมีเพศสัมพันธ์ตามปกติได้
4. ดูแลทำความสะอาดแผลอยู่เสมอ แนะนำให้ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำเปล่า ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใด ๆ เพราะมีโอกาสทำให้ค่า pH บริเวณปากช่องคลอดไม่สมดุล
5. แช่น้ำอุ่นบริเวณแผล เพื่อลดอาการอักเสบ สำหรับคนไข้ของปุณรดายาไทย หมอจะแนะนำให้ใช้ยาสมุนไพร So Fin ในการแช่ ครั้งละ 10-15 นาที เช้า เย็น เพื่อทำให้เลือดบริเวณแผลไหลเวียนได้ดีขึ้น เมื่อแผลเริ่มสมาน ยาแช่ So Fin จะช่วยลดอาการอักเสบ ลดอาการปวดบวม และยังช่วยให้แผลสมานตัวได้เร็วขึ้น สำหรับการแช่แนะนำให้แช่ในกะละมังที่สามารถวางบนชักโครกได้เพื่อลดการเคลื่อนไหว หากแช่กับกะละมังปกติที่วางที่พื้น การลุกนั่งอาจจะทำให้แผลปริมากกว่าเดิมได้
6. เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ เลือกเป็นอาหารที่มีส่วนช่วยในการฟื้นฟูแผล เช่น ผัก ผลไม้ โปรตีนที่ดีจากเนื้อปลาน้ำจืดที่ไม่คาว เนื้อสัตว์ขาว เช่น ไก่ (เลือกทานส่วนที่ไม่ติดมันจะดีที่สุดนะคะ) เป็นต้น และควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่กระตุ้นการอักเสบได้ ในภาษาทางแผนไทยเรียกว่าอาหารแสลง เช่น ของหมักดอง เครื่องในสัตว์ สัตว์เนื้อแดง (วัว เป็ด หมู) เป็นต้น ข้าวเหนียว ขนมจีน อาหารทะเลทั้ง กุ้ง หมึก หอย ปลาดิบ
7. ไม่ถูหรือสัมผัสที่แผล เวลาเข้าห้องน้ำให้ใช้ทิชชู่ซับเบา ๆ ไม่ถูแรง หรือใช้มือถูเพื่อทำความสะอาด เพราะจะทำให้แผลหายช้า และเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากการใช้มือสัมผัสได้
8. ออกกำลังกายโดยการขมิบช่องคลอดเป็นประจำ โดยการขมิบแต่ละครั้งให้ค้างไว้แล้วนับ 1-10 นับเป็น 1 รอบ ทำเช่นนี้อย่างน้อยวันละ 30 รอบ เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อหูรูดเกิดการยืดหยุ่น และกระชับปากช่องคลอด
9. ไม่ควรอยู่ในท่าเดิมนาน ๆ โดยเฉพาะการนั่งหรือยืนนาน ๆ เพราะจะทำให้เกิดการกดทับ เลือดเสียไหลเวียนออกได้ไม่ดี ส่งผลให้แผลหายช้า ควรใช้เบาะรองนั่งรูปทรงโดนัท เพื่อช่วยลดการกดทับบริเวณแผลปริปากช่องคลอด
10. สวมใส่กางเกงหรือกระโปรงที่หลวม ไม่รัดรูป เพื่อลดการสัมผัสระหว่างเสื้อผ้า และแผลโดยตรง ควรเลือกใส่ผ้าที่สบาย ระบายอากาศได้ดี ป้องกันการอับชื้น
11. ควรขับถ่ายให้ได้ทุกวัน พยายามรับประทานไฟเบอร์ แหล่งไฟเบอร์ที่ดีที่สุดคือ ผัก ผลไม้สด โดยผักควรนำมาปรุงให้สุกก่อนทานเพื่อให้ย่อยง่าย ดีต่อระบบย่อยและระบบขับถ่าย หรือรับประทานโพรไบโอติกส์เพื่อช่วยในการขับถ่าย ขยับร่างกายบ่อย ๆ เพราะหากท้องผูกจะยิ่งทำให้เวลาเราเบ่งถ่าย แผลที่ช่องคลอดอาจจะปริมากกว่าเดิมได้
เป็นอย่างไรบ้างคะสำหรับวิธีการดูแลแผลปริปากช่องคลอด และแผลปริที่ฝีเย็บสำหรับคุณแม่ จริงๆแล้วหากแผลไม่ได้มีการอักเสบหรือรุนแรงมาก เราก็สามารถดูแลตัวเองได้นะคะ หากใครเริ่มมีอาการเจ็บๆที่ปากช่องคลอด หรือรู้สึกว่ามีอาการผิดปกติ สามารถไปพบแพทย์หรือแจ้งอาการเข้ามาทาง line ของ ปุณรดายาไทยได้เลยนะคะ ทางเรามีคุณหมอคอยให้คำแนะนำตลอดเลยค่ะ
ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "