คุณผู้ชายคนไหนกำลังมีความกังวลเกี่ยวกับอาการผิดปกติหลังจากมีเพศสัมพันธ์ หรือมีอาการเลือดออกบริเวณอวัยวะเพศโดยไม่ทราบสาเหตุ วันนี้หมอจะมาอธิบายสาเหตุ สัญญาณที่บอกถึงความผิดปกติ และ วิธีการดูแลตัวเองเพื่อให้อาการที่เป็นหายสนิทได้เร็วมากขึ้นกันนะคะ
1. มีเลือดออกบริเวณอวัยวะเพศ อวัยวะเพศบวมผิดปกติ หรือมีรอยถลอก
2. มีเลือดออก หรือเจ็บ ปวด บวม บริเวณทวารเนื่องจากการปริของขอบทวาร
3. ปัสสาวะเป็นเลือด แสบร้อนเวลาปัสสาวะ หรือปวดเวลาปัสสาวะ ปัสสาวะขัด ปัสสาวะลำบาก
4. เวลาใกล้หลั่งรู้สึกเจ็บมาก ไม่ได้รู้สึกสุขสมขณะใกล้หลั่ง
5. เจ็บบริเวณกระเพาะปัสสาวะ
• มีการบาดเจ็บที่อวัยวะเพศ อาจเกิดจากการเสียดสี
• การอักเสบของอวัยวะเพศชาย
• การฉีกขาดของขอบทวาร เป็นแผลปริที่ขอบทวาร
• เส้นเลือดในต่อมลูกหมาก หรือถุงน้ำเชื้ออาจแตกระหว่างมีเพศสัมพันธ์ หรือการหลั่ง
• การติดเชื้อติดต่อทางเพศสัมพันธ์ (STIs) เช่น โรคเริมที่อวัยวะเพศ โรคหนองใน
• ต่อมลูกหมากอักเสบ
• นิ่วในถุงน้ำเชื้อ
• มีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ทำให้มีเลือดปน ออกมาจากอวัยวะเพศได้
• มีเนื้องอกของอวัยวะเพศชาย หรือบริเวณกระเพาะปัสสาวะ
• นอกจากนี้ยังสามารถเกิดจากสาเหตุอื่นนอกจากนี้ได้ การตรวจเพิ่มเติมจะช่วยค้นหาสาเหตุที่แน่ชัดได้ค่ะ
1. ค้นหาสาเหตุของอาการที่เป็นเพื่อรักษา สามารถเริ่มต้นจากการสังเกตด้วยตนเอง หรือ ปรึกษาอาการกับคุณหมอที่เชี่ยวชาญ
2. หากเป็นอาการที่ดูแลด้วยตนเองได้ เช่น เริม แผลปริที่ทวาร แผลถลอก แนะนำให้ดูแลรักษาความสะอาดและเลือกใช้ยารักษาที่เหมาะสม สำหรับอาการเริม สามารถใช้ชุดยา H-Set เพื่อรักษาจนอาการหายสนิทได้อย่างปลอดภัย ภายใต้คำแนะนำของแพทย์แผนไทยของปุณรดายาไทย และอาการแผลปริขอบทวาร รักษาได้โดยใช้ชุดยาทา B-SkinII และ So Fin จนอาการหายสนิทได้เช่นกัน
3. งดมีเพศสัมพันธ์ในช่วงมีอาการจนกว่าจะหายสนิท เพื่อป้องกันการติดเชื้อไปสู่คู่นอนสำหรับโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และดูแลอาการไม่ให้แผล หรืออาการที่เป็นหนักขึ้นหากเกิดจากสาเหตุอื่น
4. ล้างทำความสะอาด อวัยวะเพศอย่างถูกต้อง ไม่ควรทำความสะอาดอวัยวะเพศชายรุนแรงจนเกินไป เพราะอาจทำให้หนังอวัยวะเพศถลอกได้
5. ช่วงที่อาการผิดปกติ ควรดูแลสุขภาพให้ดี เลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ พยายามเลี่ยงอาการที่กระตุ้นการอักเสบในร่างกาย เช่น อาหารรสจัด เครื่องในสัตว์ เนื้อสัตว์แดง (เช่น เป็ด หมู เนื้อวัว ปลาทูน่า) อาหารกึ่งสุดกึ่งดิบ ปลาดิบ ซูชิ ของหมักของดอง แอลกอฮอล์ เป็นต้น
6. ออกกำลังกายเบา ๆ เพื่อให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวก แต่ไม่ควรหักโหมมากเกินกำลัง
7. หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ในช่วงเจ็บป่วย เพราะจะยิ่งทำให้แผลหายช้า และเกิดการอักเสบภายในเซลล์ของร่างกายจากสารในบุหรี่ที่จะไปกระตุ้นให้เซลล์ในร่างกายอักเสบมากขึ้น
หากใครเริ่มมีอาการที่ผิดปกติ หมออยากแนะนำให้ลองสังเกตตัวเองดูนะคะว่ามีอาการตรงกับข้อไหนบ้าง จะได้แจ้งอาการกับคุณหมอได้อย่างถูกต้อง ยิ่งเราค้นพบสาเหตุได้เร็ว ก็จะทำให้อาการหายดีได้เร็วขึ้นค่ะ นอกจากการรักษาโดยตรงกับคุณหมอแล้ว การดูแลตัวเองก็เป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการที่เป็นอยู่รุนแรงมากขึ้น ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัดด้วยนะคะ หากใครยังไม่แน่ใจเกี่ยวกับอาการ หรืออยากปรึกษากับคุณหมอของปุณรดายาไทยโดยตรง สามารถติดต่อได้ที่ line id : @ poonrada หรือโทรติดต่อได้ที่ 02-1147027 คุณหมอพร้อมให้คำปรึกษาค่ะ
ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "