โหราศาสตร์กับแพทย์แผนไทยมีความสัมพันธ์กันไหม? ทำไมหมอไทยโบราณต้องเรียนโหราศาสตร์

โหราศาสตร์ไทย เป็นวิชาที่ใช้การทายกาลล่วงหน้า หรือดูการล่วงหน้า ใช้สำหรับพยากรณ์ผลกรรมของมนุษย์โดยอาศัยดวงดาวเป็นเครื่องพยากรณ์ หลายคนอาจจะมีมุมมองเกี่ยวกับโหราศาสตร์ว่าเป็นเรื่องลึกลับ งมงาย ไม่มีหลักการ แต่แท้จริงแล้วโหราศาสตร์ไทยก็มีทั้งหลักเกณฑ์เหตุผลที่ใช้ในการวิเคราะห์ที่เข้มข้นไม่แพ้ศาสตร์อื่น ๆ แม้แต่ในการกำหนดวันพระ ก็มีการบัญญัติขึ้นตามมติของโหราศาสตร์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการโคจรของพระจันทร์โดยโคจรมาทำมุมกับพระอาทิตย์ในตำแหน่ง 90 องศาและ 180 องศา ซึ่งดาว 2 ดวงนี้เป็นประธานแก่หมู่ดาวทั้งหลาย เพื่อทำมุมกันเช่นนี้จะบันดาลให้จิตใจของมนุษย์เปลี่ยนแปรไปในทางอกุศล เป็นทางให้ก่อกรรมชั่ว จึงเป็นที่มาของการกำหนดวันเหล่านี้ให้เป็นวันพระ เพื่อให้บุคคลพึงสมาทานศีลเพื่อเป็นทางเว้นจากอกุศล จึงไม่ได้กะเกณฑ์วันที่เป็นวันพระตายตัวเช่นศาสนาอื่น นอกจากในด้านการวางฤกษ์งามตามหลักเพื่อส่งเสริมการทำกิจกรรมต่าง ๆ การผูกชะตาวางลัคนาก็มีความสำคัญ เพราะดวงดาวในวันเวลาที่เราเกิดจะบ่งบอกถึงสิ่งที่เราเคยกระทำมาแต่เก่าก่อน บางคนอาจจะเรียกว่าชาติที่แล้ว หรือบางคนอาจจะเรียกได้ว่ามันคือกรรมเก่า หรือสิ่งที่เราอธิษฐานไว้ก่อนจะมาเกิดในชาติปัจจุบันนี้ โหราศาสตร์จึงเป็นสิ่งที่บอกผลกรรม ความเป็นไปของมนุษย์ในห้วงเวลาที่มีชีวิตอยู่ได้เป็นอย่างดี แสดงเหตุและผลของดวงดาว ทำนายเหตุการณ์ล่วงหน้าของวิถีทางทั้งมนุษย์และเหตุการณ์ของโลกทั่วๆไป ในคัมภีร์พระเวทของพราหมณ์ ซึ่งมีอายุก่อนพระพุทธศาสนาก็มีคำสดุดีดาวพระเคราะห์ ซึ่งมีความเชื่อมโยงว่าโหราศาสตร์ไทยก็สืบทอดมาจากอินเดีย ในไทยเรา มีตำแหน่งพระมหาราชครู ซึ่งเป็นพราหมณาจารย์และตั้งเป็นปุโรหิตประจำราชสำนักสืบต่อมาในอยุธยา จวบจนรัตนโกสินทร์ปัจจุบัน

ในทางการแพทย์แผนไทย วิชาดวงดาวหรือโหราศาสตร์นั้นก็มีความสำคัญ แต่ละราศีต่างมีธาตุประจำตัว ได้แก่

ราศีธาตุดิน : มังกร พฤษภ กันย์
ราศีธาตุน้ำ : กรกฎ พิจิก มีน
ราศีธาตุลม : ตุลย์ กุมภ์ เมถุน
ราศีธาตุไฟ : เมษ สิงห์ ธนู

เมื่อดาวเคลื่อนที่ไปตามราศีต่าง ๆ ธาตุและลักษณะของราศีนั้น ก็จะมีผลต่อดาวที่เคลื่อนไปตกตามราศี ส่งผลให้แสดงถึงลักษณะ นิสัย สิ่งที่ต้องเผชิญของแต่ละช่วงเวลา ในชีวิตของแต่ละคน รวมไปถึงโรคภัยที่มีโอกาสพบเจอได้ด้วย หมอเองเคยได้ดูธาตุลัคนาประจำตัวของคนไข้ที่เข้ามาปรึกษา โรคบางโรคที่เป็นก็ดำเนินไปตามพื้นดวง บางคนก็มีโอกาสเป็นโรคที่เรื้อรังรักษาได้ยาก ดังนั้นแนวทางในการดูแลก็จะแตกต่างกันไป ถ้าเราสามารถทราบข้อมูลพื้นฐานและสิ่งที่ต้องเผชิญ ทำความเข้าใจ ก็สามารถที่จะหาทางป้องกัน หรือบรรเทาโรคนั้น ๆ ให้เบาลงได้ด้วยวิธีการดูแลตัวเองที่เหมาะสม ยกตัวอย่างคร่าว ๆ ของโรคที่เกิดได้ในแต่ละราศี เป็นความสัมพันธ์ระหว่างโหราศาสตร์และสมุฎฐานการเกิดโรค โดยดูได้จาก 4 สิ่งคือ

1. ตามราศี โดยโหราศาสตร์ไทยจะเริ่มต้นด้วย ราศีเมษ ซึ่งสัมพันธ์กับอวัยวะที่จะเกิดโรคได้แก่ บริเวณ ศีรษะ ใบหน้า สมอง เช่น โรคไมเกรน ผมร่วง ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ปวดฟัน เหงือกบวม สิว เป็นต้น ราศีพฤษภ สัมพันธ์กับอวัยวะ คอ ไทรอยด์ เช่น โรคคอพอก ไทรอยด์ ทอนซิลอักเสบ หลอดลมตีบ เป็นต้น ราศีเมถุน สัมพันธ์กับอวัยวะ ไหล่ บ่า แขน ปอด ได้แก่ โรคปอดบวม วัณโรค ปวดตึงคอบ่าไหล่ หัวไหล่ติด เป็นต้น ซึ่งจะเห็นได้ว่าอวัยวะจะค่อย ๆ ถัดไปตามลำดับลงมาตั้งแต่ศีรษะไปจนถึงเท้า ปิดท้ายด้วยราศีมีนนั่นเอง

2. ตามภพเรือนชะตา โดยการดูโหราศาสตร์พื้นดวงจะเริ่มต้นที่ตำแหน่งที่ลัคนาสถิตย์ คือของ ภพแรก ตนุ หรือตัวตน เป็นจุดเริ่มต้นของศีรษะ ใบหน้า เช่นเดียวกับการเริ่มต้นด้วยราศี ไปจบที่ภพที่ 12 คือภพของวินาสน์ หรือความเสียหาย คือบริเวณเท้า แต่มีรายละเอียดที่เพิ่มเติมคือ ภพที่ 2-6 (กฎุมภะ-อริ) เป็นตัวแทนของร่างกายซีกขวา ภพที่ 7-12 (ปัตนิ-วินาสน์) แทนร่างกายซีกซ้าย

3. ตามภพที่เกี่ยวกับโรคโดยตรง ได้แก่ ภพอริ (อุปสรรค) ภพมรณะ (โรคภัย) และภพวินาสน์ (ความเสียหาย)

4. สุดท้าย คือตาม ดวงดาวที่บอกถึงอาการโรคได้ โดยจะพิจารณาควบคู่กับราศีที่ดวงดาวโคจรไปกับโรคที่เรือน ภพนั้น ๆ

นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำไมหมอแผนไทยโบราณ จำเป็นที่จะต้องเรียนด้านโหราศาสตร์ร่วมด้วย เพื่อการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ แต่ไม่ใช่ว่าเอาจากดวงดาวมาดูแล้วจ่ายยาตามนั้นเลย แต่ใช้ข้อมูลดาว มาควบคู่กับอาการโรคที่เป็นตอนนี้ ข้อมูลทางโหราศาสตร์เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ช่วยในการรักษาได้ อย่างไรก็ตามการซักประวัติ ตรวจโรค ตรวจร่างกายก็ยังเป็นเรื่องสำคัญสำหรับการรักษา แพทย์แผนไทยที่ปุณรดายาไทยเอง เห็นความสำคัญของจุดนี้ เพราะเราเชื่อว่าธรรมชาติส่งผลต่อสุขภาพโดยตรง เช่น ฤดูร้อนก็ทำให้เกิดโรคต่างจากฤดูหนาว สิ่งเหล่านี้คืออิทธิพลจากธรรมชาติ เราจึงไม่ละเลยปัจจัยที่สำคัญนี้ เลยได้ศึกษาศาสตร์โหราศาสตร์เพื่อนำมาใช้เป็นองค์ประกอบหาอิทธิพลที่ส่งผลต่อการเกิดโรค ช่วยร่วมในการวิเคราะห์ นำมาใช้ออกแบบการรักษาแบบองค์รวม เพื่อให้มองเห็นภาพโดยรวมที่ครบทุกมิติมากที่สุด เพราะพื้นของดวงชะตาของคนไข้ สามารถบอกแนวโน้มการเกิดโรคของเจ้าชะตา ว่ามีโอกาสเป็นโรคอะไรได้ แม้โรคที่หาสาเหตุได้ยาก อาจจะช่วยชี้ทางให้แพทย์ตรวจค้นในสิ่งที่แพทย์หรือตัวเราเองมองไม่เห็นได้ นอกจากนี้การเคลื่อนที่ของดวงดาวไปตามราศี เรือนภพต่าง ๆ ยังมีระยะเวลาที่สามารถระบุแน่ชัดได้ ทำให้คาดคะเนถึงระยะโรคที่เป็นไปอยู่ตอนนี้หรือโอกาสที่กำลังจะมาถึงได้ สิ่งเหล่านี้ช่วยให้เราวางแผนตั้งรับ ป้องกัน และรักษาได้ตรงจุดมากขึ้น เพราะเราให้ความสำคัญกับการรักษาคนไข้ อะไรที่ส่งเสริมให้การรักษามีประสิทธิภาพสูงสุดเราจะตั้งใจทำ เลยทำให้เราใส่ใจในรายละเอียดเหล่านี้ควบคู่กับการออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล

การใช้ข้อมูลดวงดาวโหราศาสตร์มาดูแลสุขภาพจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการวิเคราะห์สุขภาพได้ ถ้าเราอยากรู้จักร่างกายตัวเอง โอกาสที่จะเกิดโรคต่าง ๆ หรือแม้แต่บุคลิกลักษณะนิสัย ก็เป็นบ่อเกิดโรคที่จะตามมาได้เช่นกัน ที่สังเกตได้ชัดจากประสบการณ์การรักษาที่ผ่านมา คนไข้ที่เป็นโรคเรื้อรัง หรืออยู่ ๆ ก็มีโรคเกิดขึ้น ทั้งที่ไม่ทราบสาเหตุ พอมาดูข้อมูลทางดวงดาวของคนไข้ เราได้เห็นที่มาที่ไปหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอุปนิสัยที่คนไข้ไม่ได้บอก พฤติกรรมที่ก่อให้เกิดโรค ดวงดาวที่โคจรมาในช่วงที่เริ่มเกิดโรค รวมไปถึงหนทางในการจะรักษาโรคนี้ หมออยากชวนมองในมุมที่ว่า วิชาโหราศาสตร์ก็ไม่ได้แตกต่างจากวิชาสถิติ เพราะข้อมูลที่โหราจารย์นำมาใช้ก็เกิดจากการเก็บสะสมสถิติจากคนหลายพัน หลายหมื่นคน จากยุคสู่ยุค ข้อมูลเหล่านี้ก็ไม่เปลี่ยนไปแม้ว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนแปลง บางครั้งความจริงก็มีหลายแง่มุมขึ้นอยู่กับว่าเรามองในมุมไหน เอาอะไรเป็นตัววัด เพราะถ้าสิ่งเหล่านี้ไม่มีความเป็นจริงเลยศาสตร์เหล่านี้คงหายไปตามกาลเวลา แต่ในปัจจุบันเราก็ได้เห็นว่ามีการพิสูจน์ว่าร่างกายเราได้รับอิทธิพลจากสิ่งต่างๆรอบตัว ความเป็นไปของชีวิต ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ มากมาย หมออยากจะบอกว่าตอนที่ทุกคนเกิดมากรรมเป็นสิ่งที่กำหนดเรา แต่เมื่อเราได้เรียนรู้ และเติบโตขึ้นมา ทุกสิ่งเราสามารถกำหนดเองได้ เพียงแค่เราต้องรู้ก่อนว่าอะไรคือจุดอ่อน-จุดแข็งของตัวเอง เราจะได้เอาสิ่งเหล่านี้มากำหนดเป็นเป้าหมาย ทิศทาง และวิธีการลงมือทำที่เหมาะสมกับตัวเอง

หากสนใจ ต้องการวิเคราะห์ธาตุประจำตัวของคุณโดยแพทย์แผนไทยที่เชี่ยวชาญ สามารถแอดไลน์มาได้ที่ line id : @poonrada (มี @นำหน้า) หรือโทรมาที่เบอร์ 092-354-7949 แพทย์แผนไทยของปุณรดายาไทยพร้อมให้คำปรึกษาค่ะ

ทางที่รวดเร็วที่สุด >> กรอกข้อมูลเพื่อวิเคราะห์สุขภาพของคุณ มีค่าบริการ 799.- บาท ที่ https://forms.gle/8w7swVvGFMjUbwx48

ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ