ริดสีดวงขณะตั้งครรภ์ หลังคลอดมีโอกาสหายไหม ใช้ยาอะไรดี

ริดสีดวงทวารเป็นโรคยอดฮิตของคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ และสามารถเกิดได้ตั้งแต่ระหว่างตั้งครรภ์ และหลังคลอด ซึ่งเป็นปัญหาที่คุณแม่มักจะกังวล เพราะค่อนข้างกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน บางคนเป็นแล้วเป็นเรื้อรัง คลอดลูกแล้วก็ยังไม่หายถ้าไม่ดูแลให้ดี

วันนี้หมอจะมาตอบคำถามที่คุณแม่สงสัยกันมาก เช่น เป็นแล้วหลังคลอดมีโอกาสหายไหม และมาแนะนำยารักษาริดสีดวงหญิงขณะตั้งครรภ์ให้ค่ะ

4 สาเหตุ ริดสีดวงทวารขณะตั้งครรภ์

1. มดลูกที่ขยายใหญ่ขึ้นจากการตั้งครรภ์ จะไปกดหลอดเลือดดำในช่องท้องทำให้หลอดเลือดดำที่อยู่ปลายทาง เช่น บริเวณเท้า ขา และก้น มีการไหลเวียนกลับเข้าสู่หัวใจยากขึ้น จึงทำให้เกิดการคั่งของเลือดในบริเวณเหล่านั้น การคั่งของเลือดที่กระจุกเลือดที่บริเวณก้นจะเห็นเป็นริดสีดวงทวารขึ้นมา ส่วนบริเวณอื่นๆ เช่น เท้า ขา จะเกิดการบวมมากกว่าปกติได้

2. เมื่อตั้งครรภ์ร่างกายจะมีการสร้างฮอร์โมนขึ้นมาหลายชนิด ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้ส่วนมากจะทำให้หลอดเลือดดำมีการขยายตัวมากขึ้น เป็นผลให้ไปเพิ่มการคั่งของเลือดมากขึ้นโดยที่ก้นหรือทวารจะเห็นเป็นริดสีดวงทวาร

3. อาการท้องผูกที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ก็มีส่วนทำให้เกิดอาการริดสีดวงทวารขึ้นได้ นั่นเพราะเวลาที่คุณแม่ท้องผูกแล้วต้องเบ่งเวลาถ่ายอุจจาระ การใช้แรงเบ่งมากขึ้น ทำให้หลอดเลือดดำที่ทวารโป่งพองมากขึ้น เห็นเป็นริดสีดวงทวาร

4. การอยู่ในอิริยาบถเดิมนานๆ เช่น การนั่ง นอน หรือยืนนานๆ ก็เป็นผลให้เกิดอาการริดสีดวงทวารขึ้นได้เช่นกัน เพราะเลือดจะไปรวมอยู่ตรงส่วนที่ต่ำของร่างกายที่เกิดจากแรงโน้มถ่วง จึงทำให้เลือดไปคั่งที่เท้าทำให้เกิดอาการเท้าบวม หรือเส้นเลือดขอดขึ้นได้ ส่วนตรงบริเวณทวารหนักก็ทำให้เกิดอาการริดสีดวงทวารขึ้นมาได้

5 อาการที่บ่งบอกว่าคุณแม่เป็นริดสีดวงทวารขณะตั้งครรภ์

1. รู้สึกเจ็บ หรือ คันภายในทวารหนัก หรือขอบทวารหนัก

2. มีอาการบวมบริเวณรอบทวารหนัก หรือ คลำพบติ่งเนื้อที่ขอบทวารหนัก

3. มีเลือดออกเล็กน้อยเวลาขับถ่าย รู้สึกอึดอัด ไม่สบายตัว โดยเฉพาะบริเวณทวารหนักเวลาเข้าห้องน้ำ

4. มีอาการเจ็บ ปวด เวลาอุจจาระ และอาจมีมูกเลือดไหลตามออกมาภายหลัง

5. รู้สึกเหมือนยังถ่ายไม่สุด เหมือนมีอุจจาระค้างอยู่ในลำไส้ อุจจาระแข็ง ขับถ่ายยาก และต้องการเข้าห้องน้ำอีก

โดยแรกเริ่มคุณแม่อาจจะมีอาการเพียงเล็กน้อย หรือบางท่านอาจจะคลำพบติ่งเล็กๆ หรือคลำไม่พบติ่งเลย มีแค่อาการคันภายในรูทวาร หรือเจ็บบริเวณรูทวารขณะขับถ่าย แต่เมื่อท้องโตขึ้นในระยะใกล้คลอด(ช่วงไตรมาสสุดท้าย เข้าเดือนที่7-9) หัวเด็กจะลงไปกดเส้นเลือดใหญ่บริเวณรอบทวารหนัก ทำให้ริดสีดวงทวารอาการกำเริบหนักขึ้นได้ แต่เมื่อคลอดแล้ว ก็จะไม่มีแรงกดจากทารกในท้องอีก ดังนั้นริดสีดวงทวารที่เป็นตอนท้องก็จะหดเล็กลงภายใน 6 สัปดาห์หลังคลอดค่ะ และอาจหายไปได้เองแม้ไม่ทำการรักษา

คุณแม่บางท่านอาจสงสัยว่าแล้วถ้าเป็นมาตั้งแต่ก่อนคลอดจะเป็นอันตรายไหม จากประสบการณ์ของหมอที่รักษาริดสีดวงคุณแม่ขณะตั้งครรภ์มา ขอบอกเลยค่ะว่าริดสีดวงตอนท้องนี้ไม่อันตรายต่อคุณแม่และทารก แต่อาจจะส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันของคุณแม่ หากตัวริดสีดวงทวารอักเสบ บวม ก็จะรู้สึกเจ็บมาก เวลาขยับร่างกาย เดิน นั่งก็จะไม่สบายตัว ยิ่งตอนคลอด หากคลอดธรรมชาติจะต้องมีการเบ่ง ริดสีดวงที่เป็นอยู่แล้วก็จะยิ่งขยายใหญ่มากขึ้น และมีอาการเจ็บ ปวดมากขึ้นได้ ดังนั้นหากรีบรักษาตั้งแต่ก่อนคลอดได้ก็จะดีกว่าค่ะ

วิธีการรักษาริดสีดวงทวารขณะตั้งครรภ์

ยารักษาริดสีดวงขณะตั้งครรภ์ ทางแผนปัจจุบันมักเป็นการใช้ยาภายนอกค่ะ หมอจะไม่จ่ายยารับประทาน เพื่อไม่ให้กระทบต่อทารกในครรภ์ ซึ่งทางแผนปัจจุบันก็จะจ่ายเป็นยาเหน็บทวาร หรือให้คุณแม่ประคบเย็นบริเวณติ่งริดสีดวงทวาร และนั่งแช่ก้นเพื่อบรรเทาอาการ แต่ทั้งนี้การใช้ยาเหน็บต้องให้แพทย์เป็นผู้ประเมินการใช้ยาแต่ละราย

ส่วนทางการแพทย์แผนไทยก็จะใช้ยาสมุนไพรภายนอก ในการรักษาเช่นกันค่ะ โดยจะเป็นยาผงสมุนไพรทาภายนอก และสมุนไพรสำหรับแช่ก้น ปุณรดายาไทยเราจะเรียกว่า ชุดยารักษาริดสีดวงทวารสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ หรือ Feel Free Set ซึ่งมีตัวยาที่ช่วยรักษาทำให้ติ่งริดสีดวงทวารฝ่อ แห้ง ยุบ หรือหดกลับหายเป็นปกติได้ ช่วยลดอาการบวม ปวด เจ็บ ช่วยกระจายเลือดที่คั่งบริเวณทวารของคุณแม่ให้ไหลเวียนได้ดี ทำให้รู้สึกสบาย ผ่อนคลายที่สำคัญปลอดภัย ไร้สารเคมี และไม่ส่งผลต่อทารกในครรภ์ด้วยค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับข้อมูลวิธีการรักษาริดสีดวงทวารขณะตั้งครรภ์ หมอตั้งใจทำข้อมูลชุดนี้ขึ้นมาเพราะหมอรู้ว่าเวลาที่คุณแม่มีอาการสิ่งแรกที่คุณแม่กังวลคือ จะอันตรายกับลูกไหม ต้องรักษายังไง และอาการที่เป็นนี้เกิดขึ้นจากอะไร จะได้รักษาหายเพราะเป็นห่วงลูก แม่เองก็อยากเคลื่อนไหวทำอะไรให้สะดวกจะได้ทำกิจกรรมร่วมกับเจ้าตัวน้อยได้อย่างคล่องตัว หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อมูลชุดนี้จะช่วยให้คุณแม่หลายท่านคลายกังวล สบายใจและได้แนวทางการรักษาที่ปลอดภัย เมื่อเข้าใจเกี่ยวกับริดสีดวงทวารขณะตั้งครรภ์มากขึ้นแล้ว ก็อย่าลืมดูแลสุขภาพ และคอยสังเกตตัวเองอยู่เสมอนะคะ

หากคุณแม่ท่านใดเริ่มมีอาการ หรือ ไม่มั่นใจว่าอาการที่เป็นนี้ใช่อาการริดสีดวงทวารไหมสามารถแจ้งอาการเพื่อปรึกษาเข้ามาทาง Line ของปุณรดายาไทยได้เลยนะคะ เพราะในการรักษาอาการริดสีดวงทวารกับปุณรดายาไทย จะไม่ได้เพียงจ่ายยา แต่เรายังมี การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งเรื่องของวิธีการดูแลสุขภาพที่ออกแบบเฉพาะบุคคลสำหรับผู้ที่มีภาวะริดสีดวงทวาร อาหารที่ควรทาน และ ควรงด อาหารแสลง อาหารที่ส่งผลโดยตรงต่ออาการริดสีดวงทวาร แนะนำให้แบบรายบุคคล

พร้อมทีมแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่ได้รับใบประกอบโรคศิลปะจากสภาการแพทย์แผนไทยคอยดูแล ตอบคำถามทุกเคสโดยคุณหมอ ตั้งแต่ 09.00-21.00 น. ทุกวันไม่มีวันหยุด เพราะ ความเจ็บป่วย รอไม่ได้

ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027