”สะเก็ดเงินรักษาหายไหม?” “รักษาสะเก็ดเงินด้วยตัวเองได้หรือเปล่า” คำถามยอดฮิตที่คนไข้ปรึกษาหมอเข้ามา คนไข้โรคสะเก็ดเงินหลายคนเชื่อว่า เป็นโรคสะเก็ดเงินแล้วไม่สามารถรักษาให้หายได้
แต่รู้หรือไม่คะว่าโรคสะเก็ดเงินสามารถรักษาให้หายได้ด้วยธรรมชาติ วันนี้หมอจะมาแนะนำ 5 วิธีรักษาสะเก็ดเงินธรรมชาติให้หายสนิท หรือป้องกันไม่ให้โรคสะเก็ดเงินเกิดซ้ำ จากประสบการณ์การรักษาคนไข้โรคสะเก็ดเงินของหมอโดยใช้ตำรับยาในการรักษาของปุณรดายาไทยกันค่ะ
ในทางการแพทย์แผนปัจจุบัน มีข้อสันนิษฐานว่าโรคสะเก็ดเงิน เป็นสภาวะของร่างกายที่เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน จนทำให้เซลล์ผิวหนังมีการแบ่งตัวอย่างรวดเร็วกว่าปกติหลายเท่า และร่างกายไม่สามารถควบคุมการแบ่งตัวได้ ทำให้ผิวหนังเกิดทับซ้อนกันจนหนาขึ้น แตกเป็นขุย เพราะการผลัดเซลล์ผิวไม่เป็นไปตามปกติ ปัจจุบันคาดการณ์ว่ากลไกที่ทำให้เกิดโรคอาจมาจากปัจจัยหลัก ได้แก่ ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย กรรมพันธุ์ รวมถึงปัจจัยกระตุ้นโรค เช่น การติดเชื้อบางชนิด สภาวะทางจิตใจ การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย การใช้ยาบางชนิด การแกะเกาบริเวณผิวหนัง การดื่มเหล้า สูบบุหรี่ โรคอ้วน การใช้สารเคมี และการทานอาหารแสลง
ในทางการแพทย์แผนไทยเราวิเคราะห์กลไกการเกิด โรคสะเก็ดเงินว่าเป็นโรคที่เกิดจากระบบเลือดและน้ำเหลืองมีความผิดปกติ และพอมีปัจจัยอื่น ๆ มากระทบ เช่น อาหารแสลง ความเครียด อากาศ หรือยาบางชนิด สิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อระบบธาตุในร่างกาย โดยจะกระทบธาตุไฟ หรือความร้อนในร่างกายก่อน จากการที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ ที่กระทำมาเป็นเวลานาน เช่น ความเครียด สภาพอากาศ การทานอาหารแสลง พักผ่อนน้อย ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮลล์เป็นประจำ จะมีผลให้ธาตุไฟกำเริบ ส่งผลกระทบต่อธาตุน้ำ (ระบบเลือด น้ำเหลือง การไหลเวียนของของเหลวในร่างกาย) ทำให้การทำงานผิดปกติไป ส่งผลให้น้ำเหลืองเสีย แสดงอาการเป็นผื่นที่ผิวหนัง คนไข้จะมีรอยผุดขึ้นเป็นแว่น เป็นวง ตามผิวหนัง เล็กบ้างใหญ่บ้าง มีสีขาว มีขอบนูนเล็กน้อย เมื่อสัมผัสที่ผื่นนั้นก็จะรับรู้ได้ถึงความร้อน หากมีการกำเริบมากก็จะเห่อบวมแดงมาก นอกจากนี้การที่ธาตุไฟเพิ่มขึ้น (กำเริบ) จะส่งผลกระตุ้นให้ธาตุลมในร่างกายทำงานเพิ่มขึ้น (กำเริบ) ได้เช่นกัน พอธาตุไฟและธาตุลมกำเริบจึงแสดงออกมาเป็นอาการคันที่ผื่นสะเก็ดเงิน และมีสะเก็ดผื่นหลุดลอกเป็นแผ่นตามผิวหนังได้
1.ทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยเฉพาะอาหารที่มีฤทธิ์เย็น
เพื่อให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เลือดและน้ำเหลืองไหลเวียนได้ดี สามารถเริ่มได้จากการรับประทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดยอาหารที่หมอแนะทำให้ทาน มีดังนี้
• อาหารกลุ่มโปรตีนและคาร์โบไฮเดรทจากพืชที่มีประโยชน์
ข้าวไม่ขัดสี และธัญพืชเต็มเมล็ดต่าง ๆ เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวแดง ข้าวหอมนิล ข้าวกล้องงอก งา รำข้าวสาลี ลูกเดือย ถั่ว 5 สี ถั่วลันเตา กลาโนล่า ข้าวโอ๊ต ควินัว เมล็กแฟลกซ์บด เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ผงคาเคา เก๋ากี้ เม็ดบัว ข้าวโพด
เป็นอาหารที่ประกอบไปด้วยรำข้าวและจมูกข้าว ที่อุดมไปด้วยใยอาหาร เมื่อทานแล้วจะช่วยเพิ่มกากใย ทำให้ถ่ายได้ดีขึ้น ช่วยบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
• อาหารกลุ่มโปรตีนจากเนื้อสัตว์
เนื้อไก่ (เฉพาะเนื้ออกไก่ และเนื้อสันใน) ไข่ขาว ปลาทับทิม ปลากระพง ปลาเก๋า ปลาอาละเม็ด ปลาอินทรีย์สด ปลาตะเพียน ปลายี่สก ปลากระบอก ปลาม้า ปลากุเลา ปลาเห็ดโคน (ปลาทราย) ปลาแดงทะเล ปลาลิ้นหมา ปลาช่อน ปลาหางเหลือง
เนื้อสัตว์เหล่านี้เป็นอาหารที่ย่อยง่าย ให้โปรตีนที่ดี จะช่วยให้ร่างกายนำสารอาหารไปใช้ได้อย่างมีคุณภาพ ไม่เหลือตกค้างเป็นความร้อนในร่างกายที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบตามมาได้
• กลุ่มวิตามินและเกลือแร่จากผักต่าง ๆ
ผักตระกูลกะหล่ำ ได้แก่ กะหล่ำดอก กวางตุ้ง ผักกาดขาว ผักกาดหอม บล็อคโคลี่ เนื่องจากผักเหล่านี้มีคุณสมบัติต่อต้านมะเร็ง เป็นแหล่งสำคัญของเส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำเพิ่มการทำงานของระบบย่อยอาหาร ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ผักจำพวกหัว เช่น มันเทศ หัวไชเท้า บีท แครอท มันฝรั่ง แนะนำให้ทานแบบปรุงสุก เป็นผักที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์และใยอาหารที่ดีต่อระบบทางเดินอาหาร ช่วยเพิ่มการทำงานของระบบย่อยอาหารให้ดีขึ้น ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
พืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วเขียว ถั่วลันเตา ถั่วดำ ถั่วเหลือง ถั่วฝักยาว มีใยอาหารสูง แต่แคลอรี่ต่ำ หาทานง่าย มีให้เลือกหลากหลาย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย
• กลุ่มวิตามินและเกลือแร่จากผลไม้ต่าง ๆ
มะละกอสุก กล้วยน้ำว้า กล้วยหักมุก แก้วมังกร แตงโม ทับทิม แคนตาลูป แตงไท ชมพู่ ฝรั่ง เชอร์รี่ กระท้อน มังคุด แอบเปิ้ล สตอเบอร์รี่ มะพร้าว ส้มโอ องุ่น ส้ม มะม่วงมัน มันแกว แห้ว มันเทศ มันต่อเผือก มันม่วง เผือก
ผลไม่เหล่านี้มีเส้นใยอาหารสูง ย่อยง่าย ช่วยในการขับถ่าย ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
• เครื่องดื่มสมุนไพร และเครื่องดื่มที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง (หวานน้อย/สูตรเจ) นมจากธัญพืช น้ำมะพร้าว (ไม่ใส่เนื้อมะพร้าว) น้ำใบบัวบก น้ำย่านางคั้น น้ำเก็กฮวย น้ำจับเลี้ยง น้ำถั่วเขียว เฉาก๊วย น้ำรากบัว น้ำใบเตย น้ำกระเจี๊ยบ น้ำมะนาว น้ำอัญชัน น้ำผลไม้สด
เครื่องดื่ม และน้ำสมุนไพรเหล่านี้มีฤทธิ์เย็น ช่วยลดการอักเสบตามร่างกายและผื่นสะเก็ดเงิน ทำให้ร่างกายสดชื่น ควรเลือกทานแบบน้ำตาลน้อยหรือไม่ใส่น้ำตาล
น้ำเปล่า ควรดื่มให้ได้ 5% ของน้ำหนักตัว จึงจะเพียงพอต่อร่างกาย ทำให้ผิวพรรณสดใส เลือดหมุนเวียนดี ลดการอักเสบตามร่างกายและผื่นสะเก็ดเงิน อีกทั้งช่วยให้อุจจาระนิ่มขึ้น ถ่ายง่ายขึ้น ทำให้ร่างกายขับฟอกของเสียได้ดียิ่งขึ้น
• อาหารย่อยง่าย ให้พลังงานต่ำ
เต้าหูไข่/ปลา ลูกชิ้นปลา เส้นบุก เส้นแก้ว วุ้นเส้น เป็นอาหารที่ย่อยง่าย ให้พลังงานต่ำ
เมื่อร่างกายสามารถเผาผลาญได้ดี ทำให้ไม่มีของเสียตกค้างในร่างกาย ป้องกันการกระตุ้นการอักเสบของสะเก็ดเงิน
2.เลี่ยงการทานอาหารแสลง
อาหารแสลงหลักที่ควรงดทานในคนไข้โรคสะเก็ดเงิน เนื่องจากอาหารแสลงเหล่านี้จะเข้าไปทำปฏิกิริยากับร่างกาย กระตุ้นอาการอักเสบ และส่งผลให้ผื่นสะเก็ดเงินหายช้า มีการคันหรือการหลุดลอกของผื่นสะเก็ดเงินมากขึ้น จึงควรเลี่ยงทานก่อนโดนเฉพาะขณะที่มีอาการกำเริบ มีดังนี้
• อาหารหมักดอง และหน่อไม้
ปลาร้า ปลาเค็ม ผัก-ผลไม้ดอง หน่อไม้ดอง
อาหารเหล่านี้มีเกลือและน้ำตาลสูงจากการบวนการหมักดอง จะกระตุ้นการอักเสบ ทำให้แผลหายช้า
• อาหารรสจัด
เค็มจัด เผ็ดจัด เปรี้ยวจัด หวานจัด
อาหารเหล่านี้จะกระตุ้นการอักเสบในร่างกาย ทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง โดยเฉพาะอาหารรสเปรี้ยวและหวานจัด จะทำให้แผลทิ้งรอยดำ หายช้า แผลเยิ้ม รสเค็มและเผ็ดจะทำให้เกิดอาการบวมน้ำได้
• อาหารทะเล
หอยและหมึกทุกชนิด กุ้ง กั้ง แมงดา แมงกะพรุน ปูดองทุกชนิด ไข่หอยเม่น ปลาอินทรีย์เค็ม
อาหารเหล่านี้อยู่ในกลุ่มอาหารที่เสี่ยงต่อการแพ้ อาจแพ้แบบไม่แสดงอาการเป็นภูมิแพ้แฝง รับประทานแล้วกระตุ้นการอักเสบ บวมแดง หรืออาจจะมีตุ่ม ผื่นคัน ขึ้นตามผิวทั่วร่างกาย นอกจากนี้ยังมีคอเลสเตอรอลสูง มีงานวิจัยออกมาว่าคอเลสเตอรอลสูงจะทำให้การอักเสบในร่างกายอย่างผื่นสะเก็ดเงินเป็นเรื้อรัง เพิ่มการอักเสบ ทำให้อาการป่วยหายช้าลง
• เนื้อสัตว์บางชนิด
เนื้อหมูติดมัน เนื้อวัว เนื้อเป็ด เนื้อควาย เนื้องู เนื้อกบ เนื้อนก เนื้อจระเข้ ปลาไม่มีเกล็ด ปลานิล ไข่(แดง)
เนื้อสัตว์เหล่านี้จะมีความคาว มีกลิ่นเฉพาะ เนื้อสัมผัสค่อนข้างหยาบ เมื่อทานเข้าไป ร่างกายต้องใช้เวลานานในการย่อย ทำให้กระเพาะอาหาร ลำไส้ ตับ ต้องทำงานอย่างหนักกว่าจะย่อยเนื้อเสร็จ เมื่ออวัยวะภายในทำงานหนักจะส่งผลให้ร่างกายมีความร้อนสูงขึ้น กระตุ้นการอักเสบในร่างกาย สำหรับปลาไม่มีเกล็ด ปลานิล ส่วนมากจะเป็นปลาเลี้ยงในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งอาจมีการใช้ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต มีการปนเปื้อนสารพิษจากแหล่งน้ำ การเลี้ยงอาจเลี้ยงด้วยมูลสัตว์ ทำให้เนื้อปลาค่อนข้างคาว รวมถึงเนื้อปลาเหล่านี้ยังมีไขมันที่ไม่ดี ซึ่งกระตุ้นการอักเสบในร่างกายได้ ส่วนของไข่(แดง) เนื่องจากมีคลอเลสเตอรอลสูง ทำให้เลือดข้นหนืดและเกิดความร้อนสะสมในร่างกาย ส่งผลให้เกิดการอักเสบของสะเก็ดเงินได้
• เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
สุรา เบียร์ ไวน์
เครื่องดื่มเหล่านี้มีฤทธิ์ร้อนเมื่อเข้าสู่ร่างกาย ทำให้ร่างกายมีความร้อนสะสมมากขึ้น จนกระตุ้นการอักเสบต่าง ๆ ในร่างกาย รวมถึงเมื่อเมาจะทำให้ร่างกายได้รับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่ำลง
• ผลไม้ฤทธิ์ร้อน
ทุเรียน ลำไย เงาะ มะปราง มะม่วงสุก ลำไย ลิ้นจี่ สับปะรด ลองกอง ขนุน ละมุด
ผลไม้เหล่านี้ให้พลังงานสูง มีฤทธิ์ร้อน มีน้ำตาลสูง จึงกระตุ้นความร้อนและการอักเสบในร่างกายได้
3.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นอาการ
การพักผ่อนที่ดีไม่ควรนอนดึกเกินเที่ยงคืน สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้านอน เพื่อช่วยให้ร่างกายได้พักผ่อน ฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ ในทางการแพทย์แผนไทยคือช่วงเวลา 4 ทุ่ม นอกจากนี้ควรพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงต่อวัน นอนในห้องที่เหมาะสม ไม่มีแสงสว่างมารบกวน อากาศถ่ายเทได้สะดวก จะส่งเสริมให้การนอนหลับดียิ่งขึ้น
ควรงดการแกะเกาแผล หรือบริเวณที่มีอาการคัน เพื่อป้องกันการลามของแผลและอาการคัน ให้ใช้การลูบเบา ๆ หรือเพิ่มความชุ่มชื้นบริเวณที่เป็นเพื่อลดอาการคัน เช่น การใช้ครีมบำรุง น้ำมันบำรุงผิวจากธรรมชาติ ดูแลความสะอาดร่างกายและเสื้อผ้าที่สวมใส่ เพื่อสุขอนามัยที่ดี
แนะนำอาบน้ำอุ่นสลับน้ำเย็น (หรือน้ำอุณหภูมิปกติ) ควรอาบในช่วงเช้า เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด มีเทคนิคคืออาบน้ำด้วยอุ่นประมาน 5 นาที และสลับมาอาบน้ำเย็นต่ออีก 5 นาที เพื่อกระตุ้นการบีบตัวของเส้นเลือดใต้ผิวหนัง ส่งผลดีต่อความแข็งแรงของผิว
4.ทำจิตใจให้แจ่มใส อยู่กับธรรมชาติ
หากมีเวลาแนะนำให้พักผ่อนตามสถานที่ธรรมชาติ เช่น น้ำตก ทะเล เดินป่า เพื่อพักผ่อนรับออกซิเจน อากาศบริสุทธิ์ และพลังงานที่ดี ทำให้จิตใจสดใส สบาย สามารถเดินออกกำลังกายในยามเช้า ตากแดดอ่อนๆ ช่วงประมาณตี 5 ถึง 7 โมงเช้า เพื่อให้ร่างกายได้สังเคราะห์วิตามินดีจากแสงแดด และช่วยกระตุ้นให้ผิวแข็งแรง
ลดปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดความเครียด กดดันตัวเองให้น้อยลงความกดดันแบบพอดีคือตัวกระตุ้นให้เรามีเป้าหมายแต่ถ้ามากเกินไปก็จะกลายเป็นสิ่งที่กลับมาทำร้ายตัวเองได้ หากิจกรรมที่ทำแล้วรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย และถ้ากิจกรรมที่ทำนั้นได้อยู่กับธรรมชาติด้วยก็จะยิ่งส่งผลดีต่อกาย-ใจของเราสภาวะจิตใจที่ผ่อนคลาย สบาย ๆ เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง สภาวะเหล่านี้จะช่วยส่งเสริมให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายแข็งแรงและหายสนิทได้ไวขึ้น
5.ใช้สมุนไพรที่เข้าไปรักษา ปรับสมดุลระบบน้ำเหลือง
การรักษาโรคสะเก็ดเงินของทางปุณรดายาไทยทีมแพทย์แผนไทยของเราได้ทำการเลือกสรรสมุนไพรจากธรรมชาติ ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี สารสเตียรอยด์ สมุนไพรผลิตในโรงงานที่ได้รับมาตราฐาน GMP เราใช้ตำรับยาในการรักษาจึงไม่ส่งผลต่อการสะสมสารพิษในตับและไต โดยมีขั้นตอนการรักษาแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนด้วยกัน ได้แก่ ขั้นตอนล้างพิษ รักษา และ ฟื้นฟู
ขั้นตอนที่ 1 ล้างพิษ :
ใน 14 วันแรกก่อนเริ่มรักษา แนะนำให้ล้างสารพิษที่ตกค้างในร่างกายขับฟอกของเสียในระบบเลือดและน้ำเหลือง ด้วยยาสมุนไพร ชุด Clean and Clear ขั้นตอนนี้ควรทำในคนไข้ที่เป็นโรคสะเก็ดเงินเป็นมาเรื้อรัง หรือเคยใช้ยาสเตียรอยด์ ยากดภูมิมาก่อน จะช่วยให้การรักษามีประสิทธิภาพ และเห็นผลการรักษาได้อย่างชัดเจน
ขั้นตอนที่ 2 รักษา :
การรักษาจะใช้ชุดยาที่ออกแบบมาสำหรับรักษาสะเก็ดเงินโดยเฉพาะ เป็นยาสมุนไพร ชุด P-set ในชุดยาจะประกอบด้วย ยาทาน ยาทา และออยอาบน้ำสระผม
ยาทาน B-Treat เป็นตำรับยาสมุนไพรที่มีสรรพคุณรักษาโรคทางน้ำเหลืองและโรคผิวหนังโดยตรง ตัวยาจะเข้าไปรักษา และ ซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง หนังศีรษะ ที่ทำงานผิดปกติ ปรับสมดุลระบบเลือด น้ำเหลือง ซึ่งเป็นระบบภูมิคุ้มกันหลักภายในร่างกายใหม่ กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ที่แข็งแรง และปรับการผลัดเซลล์ผิวเป็นไปตามระยะเวลาที่เหมาะสม ส่งผลให้ผื่นสะเก็ดเงินที่ศีรษะลดลง ปื้นสีแดงมีขนาดเล็กลง
ยาทารักษาสะเก็ดเงิน B-Lizll (หรือ B-Skinll) มีสรรพคุณ ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและสิ่งสกปรก ไม่ให้เข้าสู่ผื่นสะเก็ดเงินที่ศีรษะ และบริเวณใกล้เคียง ช่วยสมานแผลทำให้หายเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยอาการอาการแดง แสบร้อนและช่วยลดการลอก เป็นขุยของหนังศีรษะ
ออยล์อาบน้ำและสระผมสะเก็ดเงิน DerpaDerma เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย แห้ง คัน สามารถล้างทำความสะอาดตัวและใช้สระผมได้ในตัวเดียว มีสรรพคุณ ลดอาการคัน อักเสบ แดง บวม ที่ผื่นสะเก็ดเงิน ช่วยฟื้นฟู ผิวที่แห้ง ผิวขาดความชุ่มชื้น กร้าน พร้อมบำรุงผิว ให้กลับมาแข็งแรง ชุ่มชื้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ขั้นตอนที่ 3 ฟื้นฟู :
หลังจากที่อาการดีขึ้น จนใกล้หายสนิทแล้ว ขั้นตอนต่อมา คือ การป้องกันการเกิดสะเก็ดเงินซ้ำ บำรุงระบบน้ำเหลืองให้แข็งแรง เพื่อระบบภูมิคุ้มกันจะได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำใช้เป็นยารับประทานสมุนไพร ชุด Health Refreshment Set (B-Boost set) เป็นชุดยาสมุนไพรช่วยฟื้นฟู และ ป้องกันการเกิดซ้ำ สำหรับผู้ที่เป็นสะเก็ดเงิน อาการที่เกิดจากระบบน้ำเหลือง และ ระบบภูมิคุ้มกันทำงานไม่ปกติ
สะเก็ดเงินที่หัว หรือ สะเก็ดเงินที่ศีรษะ เป็นอาการเริ่มแรกที่สามารถบ่งชี้ว่าเป็นสะเก็ดเงิน เป็นเหมือนสัญญาณเตือนให้เราดูแลสุขภาพมากขึ้น หมอหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ท่านผู้อ่านมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น ทั้งวิธีการสังเกตอาการ สาเหตุการเกิดโรค และวิธีการรักษาอย่างเหมาะสม หากท่านผู้อ่านมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือกำลังมีอาการสะเก็ดเงินที่ศีรษะอยู่หากต้องการปรึกษากับทีมแพทย์แผนไทยผู้เชี่ยวชาญการรักษาโรคสะเก็ดเงินของทางปุณรดายาไทย สามารถปรึกษาโดยตรง ได้ที่ Line ID : @Poonrada หรือโทรติดต่อ 02-1147027 ได้เลยนะคะทีมหมอยินดีให้คำปรึกษาค่ะ หากบทความนี้น่าสนใจและเป็นประโยชน์ สามารถแชร์ให้คนที่คุณรักเพื่อส่งมอบความห่วงใยได้เลยนะคะ
ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "