โรคเก๊าท์ เป็นโรคที่เกิดจากภาวะกรดยูริกในเลือดสูงติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ซึ่งส่วนใหญ่กรดยูริกมาจากของเสียจากการกำจัดเซลล์ที่หมดอายุในร่างกาย ทำให้ร่างกายคนเรามีกรดยูริกอยู่ประมาณร้อยละ 80 ส่วนอีกร้อยละ 20 มักได้รับจากอาหารที่รับประทานเข้าไป หากร่างกายมีกรดยูริกสะสมอยู่มากเกินไป จะเกิดเป็นผลึกสะสมอยู่ในข้อต่างๆ เช่น ข้อมือ ข้อเท้า นิ้วมือ นิ้วเท้า ทำให้เกิดการอักเสบ ปวด บวมอย่างรุนแรงได้ค่ะ
จากข้อมูลที่กล่าวมา กรดยูริก 80% เป็นกระบวนการที่ร่างกายสร้างขึ้นเป็นปกติ ไม่สามารถหยุดหรือยับยั้งได้ แต่อีก 20% ที่มาจากอาหาร เราสามารถเลือกที่จะไม่ทานเพิ่มเข้าไปได้ เพื่อป้องกันยูริกในร่างกายสูงเกิน ดังนั้นอาหารจึงมีความสำคัญมากสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ หากผู้ป่วยเลือกรับประทานอาหารที่ดี มียูริกและพิวรีนต่ำ ก็จะไม่กระทบต่ออาการเก๊าท์ ไม่ทำให้เก๊าท์กำเริบ แต่หากทานอาหารที่มียูริกและพิวรีนสูง ก็จะกระตุ้นอาการปวด บวม อักเสบของเก๊าท์ได้ค่ะ
วันนี้หมอจะมาแนะนำอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ ทั้งอาหารที่ควรทาน และ ไม่ควรทาน เพื่อที่จะได้นำไปปรับใช้ระหว่างการรักษาโรคเก๊าท์นะคะ
1. ทานผักที่โตเต็มวัยแล้ว (ไม่ทานต้นอ่อนของพืชผัก) เพื่อลดการสะสมของยูริกและพิวรีน โดยแนะนำให้ทานผัก 3 กลุ่มดังนี้
• กลุ่มที่มีพิวรีนต่ำและมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ได้แก่ ขิง ขมิ้นชัน ข่า มะเขือเทศ หอมแดง กะหล่ำปลีม่วง มะเขือม่วง พริกแดง พริกชี้ฟ้า งาขาว งาดำ ซึ่งการที่มีพิวรีนต่ำ พร้อมทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เช่น สารไลโคปีน วิตามินอี และเบต้าแคโรทีน จะไปทำลายล้างอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในร่างกายซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่เป็นตัวทำลายเซลล์ต่างๆในร่างกาย ที่มีผลทำให้เป็นโรคหัวใจและเส้นเลือดอุดตันได้ ฉะนั้นหากกินผักกลุ่มนี้นอกจากจะไม่ก่อให้เกิดเก๊าท์แล้ว ยังช่วยป้องกันการเกิดหัวใจและเส้นเลือดอุดตันไปพร้อมๆกัน
• กลุ่มผักที่มีระดับของสารพิวรีนต่ำ ได้แก่ ฟักทอง ฟักเขียว แฟง น้ำเต้า แตงกวา บวบเหลี่ยม บวบหอม สควอช บีทรูท มันฝรั่ง มันเทศ มันหวาน เป็นต้น ผักเหล่านี้สามารถลดกรดยูริกลงได้ประมาณ 50 มิลลิกรัมต่อผัก 100 กรัม
• กลุ่มที่มีพิวรีนต่ำและมีใยอาหารสูง : ผักในกลุ่มนี้ ได้แก่ ผักกาดขาว ผักกาดหอม กะหล่ำปลี แครอท ข้าวโพด บล็อคโคลี ผักปวยเล้ง คะน้า เคล หัวหอม ซึ่งใยอาหารที่ทานเข้าไปจะช่วยการย่อยอาหาร ชะลอการดูดซึมสารอาหาร และช่วยควบคุมระดับกรดยูริกในกระแสเลือดให้ปกติ
2. ทานผลไม้ ได้แก่ สตรอว์เบอร์รี่, บลูเบอร์รี่, แครนเบอร์รี่, หม่อน, ส้ม, ส้มโอ, แตงโม, แคนตาลูป, แอปเปิล, สาลี่, อะโวคาโด, ฝรั่ง, แก้วมังกร, ชมพู่, แตงไท, แก้วมังกร, มะละกอ, องุ่น เป็นต้น เนื่องจากผลไม้เหล่านี้มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการสะสมของยูริกในร่างกาย
3. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ป้องกันการเจ็บป่วยและโรคแทรกซ้อนต่างๆ ในขณะที่เป็นเก๊าท์ เพื่อให้อาการเก๊าท์หายได้ไวขึ้น
4. ทานเต้าหู้เป็นประจำ เพราะเต้าหู้ช่วยขับยูริกได้ดี แต่หากคนไข้เพศหญิงที่เป็นเนื้องอก ซีสต์ ทานได้แต่ไม่ควรทานบ่อย เพราะจะกระตุ้นฮอร์โมนเพศที่ทำให้มีผลต่อเนื้องอก และซีสต์ได้ค่ะได้ค่ะ
5. ทานไข่ไก่ได้ เนื่องจากไข่เป็นอาหารที่มีพิวรีนต่ำ ผู้ป่วยโรคเก๊าท์สามารถทานได้ แต่ไม่ควรเกิน 1 ฟองต่อวัน และไม่ควรทานติดต่อกันทุกวัน ปริมาณการทานที่แนะนำไม่เกิน 2-3 ฟองต่อสัปดาห์ค่ะ
6. ดื่มน้ำสะอาดมากๆ อย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร โดยเฉพาะช่วงที่มีอาการอักเสบ เพื่อช่วยการขับถ่ายยูริกออกมาทางปัสสาวะ
1. งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิด เช่น สุรา เบียร์ ไวน์ เพราะแอลกอฮอล์มีผลเพิ่มระดับของกรดยูริก ทำให้เกิดการอักเสบในข้อได้ หากอาการสงบลงหรือหายแล้วอย่างน้อย 2 เดือนขึ้นไป สามารถดื่มได้แต่ควรดื่มในปริมาณที่เหมาะสม ไม่ควรดื่มมากกว่า 1 แก้วใน 1 วัน และไม่ควรทานติดต่อกันทุกวัน ทั้งนี้แนะนำให้สังเกตอาการหลังดื่มด้วย
2. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีพิวรีนสูง เช่น เครื่องในสัตว์ เป็ด ไก่ กะปิ หน่อไม้ ถั่วงอก สะเดา ยอดกระถิน เพราะทำให้ค่ายูริกสูงขึ้น สำหรับผู้ที่มีอาการเก๊าท์กำเริบจะยิ่งปวดมากขึ้น
3. หลีกเลี่ยงอาหารที่มียูริกสูง เช่น ยอดผักต่้างๆ ได้แก่ ยอดบวบ ยอดกระถิน ยอดตำลึง ยอดสะเดา ชะอม เมล็ดพืชที่ทานตอนงอกได้ ได้แก่ ถั่วงอก ต้นอ่อนทานตะวัน ต้นอ่อนผักบุ้ง เพราะผักเหล่านี้เป็นที่สะสมของกรดยูริก จะทำให้เพิ่มยูริกในกระแสเลือด
4. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง เช่น กะทิ น้ำมัน เนย ชีสต์ เบเกอรี่ ขนมไทย ของทอด พิซซ่า วิปครีม ไอศกรีม เพราะทำให้การขับถ่ายกรดยูริกเป็นไปได้ยาก
ชุดการรักษา GT-Set นะคะ ประกอบด้วยตัวยา 2 ตำรับคือ
หมอหวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์กับผู้ป่วยโรคเก๊าท์ในเลือกทานอาหาร และช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น ลดอาการเจ็บปวดจากโรคเก๊าท์นะคะ หากท่านใดมีปัญหาเกี่ยวกับเก๊าท์ ต้องการรักษาเก๊าท์ด้วยวิธีธรรมชาติ ปลอดภัย ไร้สารเคมี สามารถปรึกษาหมอโดยตรงเพื่อรับคำแนะนำและออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพิ่มเติมได้เลยค่ะ
ปรึกษาอาการกับหมอ ได้โดยตรงที่ Line ID : @poonrada ได้เลยนะคะ หมอยินดีให้คำปรึกษาค่ะ
ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "