อาการท่อน้ำนมอักเสบ อุดตัน เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในคุณแม่ที่ให้นมลูกด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นคุณแม่มือใหม่หรือคุณแม่ผู้มีประสบการณ์ ตัวหมอเองก็เป็นหนึ่งในคุณแม่ที่เคยมีปัญหาท่อน้ำนมอักเสบ อุดตันมาก่อน ซึ่งเวลามีอาการแต่ละครั้ง จะรู้สึกไม่สบายตัวไปทั้งวันเลยค่ะ
วันนี้หมอจะมาอธิบายอาการ สาเหตุ รวมถึงวิธีการรักษาและป้องกันท่อน้ำนมอักเสบ อุดตัน จากความรู้และประสบการณ์ที่ผ่านมาแบบหมดเปลือก เพื่อให้คุณแม่ที่กำลังมีปัญหานี้นำข้อมูลนี้ไปปรับใช้กันนะคะ
เรามาเริ่มกันที่เช็คลิสต์อาการท่อน้ำนมอักเสบ อุดตันกันก่อนค่ะ
1. คลำพบก้อนไตแข็งที่เต้านม
2. กดหรือสัมผัสแล้วมีอาการเจ็บ
3. มีอาการปวด บวม แดงที่เต้านม
4. น้ำนมไหลไม่สะดวก ปริมาณน้ำนมน้อยลง
5. อาจพบจุดสีขาวที่หัวนม (White dot)
หากคุณแม่เริ่มมีอาการตามนี้แสดงว่ามีอาการท่อน้ำนมอักเสบอุดตันแล้วค่ะ คุณแม่สงสัยไหมคะ ว่าอาการเหล่านี้เกิดจากอะไร?ท่อน้ำนมอักเสบ อุดตัน เกิดได้จากหลายสาเหตุดังนี้ค่ะ
1. การทานอาหารและดื่มเครื่องดื่มที่มีไขมันสูง เช่น ข้าวขาหมู เบเกอร์รี่ ของทอด ของมัน เนย ชีสต์ กาแฟใส่นม ชานมไข่มุก เครื่องดื่มใส่นมเต็มมันเนยทุกชนิด
2. ลูกดูดนมไม่เกลี้ยงเต้า ทำให้น้ำนมตกค้างจนเกิดการอุดตัน
3. คุณแม่มีปริมาณน้ำนมมากเกินไป ระบายออกไม่ทัน
4. น้ำนมค้างอยู่ในเต้านมเป็นเวลานานจากการให้นมแต่ละครั้งห่างกันมากเกินไป การให้นมไม่ตรงเวลา หรือให้นมข้างใดข้างหนึ่งบ่อยเกินไป
5. คุณแม่ใส่เสื้อชั้นในที่คับแน่น ทำให้น้ำนมไหลเวียนได้ไม่สะดวก หรือ ใส่เสื้อชั้นในที่หลวม ไม่กระชับ ทำให้เต้านมหย่อนคล้อย กดทับท่อส่งน้ำนม
6. คุณแม่มีภาวะเครียด ทำให้การหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซิน (oxytocin) ที่ทำให้น้ำนมไหลลดลง
เป็นอย่างไรบ้างคะ คุณแม่มีพฤติกรรมหรือปัจจัยที่เป็นสาเหตุเหล่านี้อยู่กันบ้างรึเปล่า หากมีหมอแนะนำให้หลีกเลี่ยง เพื่อไม่ให้อาการเป็นมากขึ้นนะคะ
ต่อไปจะเป็นวิธีการรักษาและป้องกันท่อน้ำนมอักเสบ อุดตัน หากเราดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม อาการจะหายได้เร็วขึ้นและป้องกันการเป็นซ้ำได้ค่ะ
1. ก่อนให้นม ควรประคบเต้านมด้วยผ้าชุบน้ำอุ่นจัด โดยพันผ้ารอบเต้านมทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที เพื่อช่วยลดอาการคัดตึงและทำให้น้ำนมไหลเวียนดี
2. ให้นมลูกจากเต้านมข้างที่มีปัญหาก่อน เพราะขณะที่ลูกหิวจัด ลูกจะดูดแรง ทำให้ระบายน้ำนมออกได้มาก และหลังจากที่ลูกดูดนมเสร็จให้บีบหรือปั๊มน้ำนมออก รวมถึงให้ลูกดูดนมบ่อยอย่างน้อย 8-12 ครั้งต่อวัน และดูดนานอย่างน้อยข้างละ 15-20 นาที จะช่วยให้ท่อน้ำนมอุดตันหายเร็วขึ้น
3. นวดเต้านมเบาๆขณะให้นมลูก โดยนวดเหนือบริเวณที่อุดตันไล่ลงไปถึงลานนมและหัวนม เพื่อดันให้ก้อนที่อุดตันหลุดออก
4. จัดท่าให้นมอย่างถูกต้อง โดยจัดให้คางลูกชี้ไปบริเวณที่เป็นก้อน เพื่อให้ลิ้นของลูกช่วยรีดน้ำนมส่วนที่เป็นก้อนออกได้ดีขึ้น รวมถึงจัดให้ลูกดูดนมในท่าต่างๆกันในแต่ละมื้อ เพื่อระบายน้ำนมจากส่วนต่างๆของเต้านมออก ป้องกันท่อน้ำนมอุดตัน
5. หลังให้นมเสร็จ ควรประคบเย็นเพื่อลดอาการปวด บวม แต่หากมีอาการปวดมากสามารถทานยาแก้ปวดร่วมด้วยได้ค่ะ
1. ควรให้ลูกดูดนมหรือปั๊มนมให้เกลี้ยงเต้า(สังเกตได้จากเต้านมนิ่ม อ่อนตัวลงทั้งเต้า) และให้นมลูกทุกๆ 2-3 ชั่วโมง นานอย่างน้อยข้างละ 15-20 นาที
2. ให้ลูกดูดนมอย่างถูกวิธี โดยดูดครอบตั้งแต่หัวนมจนถึงลานนม เพื่อช่วยกระตุ้นต่อมน้ำนมให้กระจายทั่วเต้านม ไม่อุดตันอยู่ที่ส่วนใดส่วนหนึ่ง
3. งดทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีไขมันสูง
4. ใส่เสื้อชั้นในที่ช่วยพยุงเต้านม ไม่หลวมหรือคับจนเกินไป
5. พยายามผ่อนคลายความเครียด ทำจิตใจให้ผ่องใส เพื่อให้ร่างกายหลั่งน้ำนมได้มากขึ้น
คุณแม่สามารถนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปลองทำตามกันได้เลยนะคะ เมื่อทำตามนี้หมอรับรองได้ว่าอาการจะดีขึ้นอย่างแน่นอน การให้นมลูกด้วยน้ำนมแม่ถือเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ที่เราสามารถทำให้ลูกน้อยของเราได้ มาดูแลเต้านม ท่อน้ำนมให้สมบูรณ์ เพื่อสร้างน้ำนมที่มีคุณภาพให้กับลูกน้อยของเรากันค่ะ สุดท้ายนี้หมอขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่ให้นมทุกท่าน ขอให้ผ่านพ้นช่วงท่อน้ำนมอักเสบอุดตันไปได้โดยเร็วนะคะ
หากคุณแม่ท่านใดมีปัญหาเกี่ยวกับท่อน้ำนมอักเสบ อุดตัน ต้องการบำรุงน้ำนมด้วยวิธีธรรมชาติ ปลอดภัย ไร้สารเคมี สามารถปรึกษาหมอโดยตรงเพื่อรับคำแนะนำและออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพิ่มเติมได้เลยนะคะ ปรึกษาอาการกับหมอ ได้โดยตรงที่ Line ID : @poonrada หรือ โทร. 02-1147027
ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "