เปลี่ยนผิวแห้งให้ชุ่มชื้น ด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เวชสำอางค์สำหรับผู้สูงอายุ

วิธีดูแลสุขภาพตามหลักแพทย์แผนไทย

เปลี่ยนผิวแห้งให้ชุ่มชื้น ด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เวชสำอางค์สำหรับผู้สูงอายุ

บอกลาผิวแห้งในผู้สูงอายุ ด้วยสุดยอดผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นจากธรรมชาติ 

 

ผิวแห้ง คือ ภาวะที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในผู้สูงอายุ แต่จะทำยังไงให้ผิวแห้งไม่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่รบกวนการนอน และไม่ส่งผลต่อบุคคลิกภาพ เจาะลึกวิธีเปลี่ยนผิวแห้งให้ชุ่มชื้น พร้อมลดอาการแห้งกร้านของผิวให้น้อยลง โดยใช้ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ทำเองที่บ้านได้ ปลอดภัย ไร้สารเคมี วันนี้หมอป๊อปมีคำตอบค่ะ

 

ปัญหาผิวแห้ง พบได้ในวัยไหนบ้าง?


ปัญหาผิวแห้ง เป็นปัญหาที่สามารถพบเจอได้ในทุกช่วงวัย แต่จะพบได้มากที่สุดในผู้สูงอายุ เพราะเมื่ออายุมากขึ้นความสามารถในการสร้างเซลล์ผิวใหม่ทดแทนเซลล์ผิวเก่าจะลดลง วงจรการผลัดเซลล์ผิวจะนานขึ้น โดยปกติจะเฉลี่ยอยู่ที่ 28 วัน แต่ในผู้สูงอายุจะใช้เวลานานถึง 90 วัน ความสามารถในการกักเก็บน้ำไว้ที่ผิวหนังลดลง เส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินบางลง ผิวขาดความยืดหยุ่น ทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่น ผิวบางลง ยิ่งถ้าผู้ใหญ่ท่านใดเคยผ่านการใช้ยาที่มีสารสเตียรอยด์ผสมต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน พออายุมากขึ้นปัญหาผิวที่เคยถูกกดอาการไว้ก็จะปรากฏชัดเจนและแสดงอาการมากยิ่งขึ้น ต่อมเหงื่อและต่อมไขมันทำงานลดลง ทำให้ผิวหนังในผู้สูงอายุมีลักษณะแห้งและหยาบกระด้างขึ้นค่ะ 

 

นอกจากอายุที่มากขึ้นจะมีผลต่ออาการผิวแห้งแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆที่ทำให้ผิวแห้งมากยิ่งขึ้นได้ โดยปัจจัยที่ทำให้ผิวแห้ง สามารถแบ่งออกเป็นปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน ดังนี้ค่ะ

ผิวแห้งเกิดจากอะไร


ปัญหาผิวแห้งเกิดได้จากปัจจัยหลายอย่างทั้งภายนอก และ ปัจจัยจากภายในดังนี้ค่ะ

ปัจจัยภายนอก ได้แก่ 

• สภาพอากาศ โดยเฉพาะฤดูหนาว อากาศเย็น หรือ การอยู่ในห้องแอร์เป็นประจำ เนื่องจากมีความชื้นในอากาศน้อย ทำให้ผิวแห้ง ขาดความชุ่มชื่น

• แสงแดด เนื่องจากมีรังสี UVA UVB ที่สามารถทำลายชั้นผิวหนังได้ ทำให้เซลล์ผิวเสื่อมสภาพ ผิวแห้งกร้าน

• การอาบน้ำบ่อยๆ เนื่องจากทำให้ชั้นไขมันที่เคลือบผิวถูกทำลาย ส่งผลให้ผิวแห้ง

• การสัมผัสสารที่มีความเป็นกรดด่าง เช่น สบู่ที่มีความเป็นด่าง หรือ ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบ ทำให้ผิวหนังเกิดการระคายเคือง แห้ง คัน

• การสวมใส่เสื้อผ้าที่มีความหยาบกระด้าง เนื่องจากมีการเสียดสี ทำให้ผิวหนังแห้งและอักเสบ

ปัจจัยภายใน ได้แก่ 

• อายุที่มากขึ้น หรือ ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน เนื่องจากเซลล์ผิวมีการเสื่อมลงตามวัย

• การขาดวิตามินเอ วิตามินอี วิตามินซี และ วิตามินบีรวม เนื่องจากวิตามินเหล่านี้มีส่วนช่วยบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้น ลดอาการผิวแห้งกร้าน

• การทานอาหารที่มีไขมันดีน้อย ทำให้ผิวหนังแห้งกร้าน ขาดความชุ่มชื้น จากการได้รับสารอาหารที่ช่วยบำรุงผิวไม่เพียงพอ

• การดื่มน้ำน้อย ทำให้ร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอ ส่งผลให้ผิวหนังแห้ง ขาดความชุ่มชื่น

• ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับสมดุลน้ำในร่างกาย หรือ มีการขับน้ำออกมากกว่าปกติ เช่น ผู้ป่วยโรคไต ผู้ที่ขาดฮอร์โมนไทรอยด์ หรือผู้ที่ใช้ยาขับปัสสาวะ กรดวิตามินเอ เป็นต้น

 

หมอแนะนำให้พยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยที่กระตุ้นอาการ เพื่อชะลอความเสื่อมของผิวหนัง รวมถึงป้องกันภาวะผิวแห้ง คัน ระคายเคืองนะคะ

 

ทำไมเวลาผิวแห้งถึงคัน ? 


เนื่องจากผิวแห้งและอาการคันเป็นของคู่กัน อาการคันมักจะเกิดร่วมกับผิวแห้งเสมอ เพราะผู้ที่มีผิวแห้งจะมีปริมาณของตัวรับสัญญาณความรู้สึกของผิว (Sensitive Receptor) มากกว่าคนปกติ หรือผิวไวต่อปัจจัยกระตุ้นมากเป็นพิเศษ หากมีปัจจัยกระตุ้นภายนอกมาสัมผัสกับผิว ตัวรับสัญญาณความรู้สึกของผิวจะส่งกระแสประสาทระหว่างเซลล์อย่างรวดเร็ว ทำให้เรารู้สึกคันยุบยิบ ระคายเคือง ไม่สบายผิวจากการส่งกระแสประสาทที่รวดเร็วผิดปกตินี้ได้ค่ะ

 

ผิวแห้งส่งผลเสียอย่างไร ?


หากปล่อยให้ผิวแห้งต่อไป ปัญหาที่อาจจะตามมาไม่ใช่ผิวที่ไม่สวย หรือ เหี่ยวย่น แต่ปัญหาอื่นๆที่จะตามมามีดังนี้

1. โรคภูมิแพ้ผิวหนัง เนื่องจากเมื่อผิวแห้ง แตก เป็นขุย จะทำให้เกิดอาการคัน แดง อักเสบที่ผิวได้ง่าย เมื่อเป็นบ่อย เป็นเรื้อรัง จากผิวแห้งธรรมดาจะกลายเป็นภูมิแพ้ผิวหนังได้ค่ะ

2. โรคสะเก็ดเงิน เนื่องจากสะเก็ดเงินมักเริ่มต้นเป็นจากอาการผิวแห้ง เป็นขุย มีการอักเสบที่ผิวเรื้อรังหรือเป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนังเรื้อรัง จนภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ และกลายเป็นโรคสะเก็ดค่ะ

3. ปัญหานอนไม่หลับ หลับไม่สนิท เนื่องจากเมื่อผิวแห้งมักทำให้เกิดอาการคัน จึงส่งผลต่อการนอน เมื่อเรานอนไม่หลับ หลับไม่สนิท จะทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลง ส่งผลให้เจ็บป่วยได้ง่าย ติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนทั่วไปค่ะ

    

พอรู้แบบนี้แล้ว คงไม่มีใครอยากให้ผิวแห้งจนเกิดปัญหาหรือเกิดโรคอื่นๆตามมาใช่ไหมคะ หลายๆท่านพออ่านมาถึงตรงนี้แล้วคงรีบหยิบ ครีม โลชั่น บอดีออยล์ มาทาผิวกันในทันที แต่ท่านผู้อ่านทราบหรือไม่คะ ว่าผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว รวมถึงผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวและปกป้องผิวแบบไหนบ้าง ? ผลิตภัณฑ์ที่ท่านผู้อ่านกำลังใช้อยู่ เหมาะกับคนผิวแห้งจริงๆหรือไม่ มาลองเช็คกันอีกครั้งก่อนนะคะ

 

วันนี้หมอได้รวบรวมลักษณะผลิตภัณฑ์ที่ควรใช้มาฝากท่านผู้อ่านเรียบร้อยแล้วค่ะ

 

ผิวแห้งควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่างไร


สำหรับคนที่มีผิวแห้ง หมอแนะนำให้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีลักษณะ 4 ข้อดังนี้นะคะ

 

1. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่มีค่าความเป็นด่างน้อย pH ประมาณ 5 และ มีสารเพิ่มความชุ่มชื้นผิว ไม่มีสารลดแรงตึงผิว (surfactant) เพราะความสมดุลความเป็นกรด-ด่างของผิวอยู่ที่ค่าประมาณ 4.7-5.75 เมื่อเราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH ใกล้เคียงกับผิวจะช่วยรักษาสภาพผิว ป้องกันการแพ้และช่วยลดความแห้งของผิวให้น้อยลงได้

2. ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่คงความชุ่มชื้นได้ยาวนาน เช่น ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในรูปแบบของครีม หรือ น้ำมันทาผิว

3. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวและบำรุงผิวที่ได้รับการรับรองว่ามีความเสี่ยงในการก่อให้เกิดการแพ้ต่ำ (Hypo-allergnic) ปราศจากแอลกอฮอล์ สารกันเสียพาราเบน น้ำหอม Mineral oil (น้ำมันจากปิโตรเคมี) สารลดแรงตึงผิว SLS เป็นต้น ข้อดี คือ ทำให้มั่นใจได้ว่าใช้แล้วปลอดภัย โอกาสในการแพ้ต่ำ ใช้ได้กับทุกสภาพผิว อ่อนโยนต่อผิว ไม่ระคายเคืองผิว ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ Hypo-allergnic เช่น ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวและบำรุงผิวที่มีส่วนผสมหรือสารสกัดจากธรรมชาติ ปราศจากสารเคมีสังเคราะห์ เพราะหากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารสังเคราะห์ หรือ น้ำหอม จะเสี่ยงต่อการแพ้ทางผิวหนัง ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว ผิวอักเสบ แห้ง ลอก แดง คันตามผิวหนังมากยิ่งขึ้น

4. เลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF (Sun Protection Factor) อย่างน้อย 15-30 เท่า (เราจะสามารถทนแดดได้นานถึง 15-30 เท่าของระยะเวลาเดิมที่เราเคยทนได้ หลังจากนั้นจึงจะเกิดผิวไหม้แดด ดำคล้ำ) แต่ถ้าเป็นการออกแดดตลอดวัน ควรใช้ครีมกันแดดที่ค่า SPF 50++ ขึ้นไป เพราะค่า SPF ที่สูง จะสามารถปกป้องผิวจากรังสียูวีบีได้ดีกว่าและยาวนานกว่า กรณีว่ายน้ำหรือเล่นน้ำควรเลือกผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดชนิดกันน้ำด้วย

 

เมื่อเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตาม 4 ข้อนี้ จะช่วยให้ผิวที่แห้งกร้านค่อยๆกลับมาชุ่มชื้น รวมถึงช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ลดโอกาสการเกิดผิวแห้งในอนาคตได้ด้วยค่ะ

 

เคล็ดลับฟื้นฟูและบำรุงผิวที่แห้งกร้านขาดน้ำจากภายใน


นอกจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดอาการผิวแห้ง พร้อมบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นจากภายนอกแล้ว การดื่มน้ำให้เพียงพอระหว่างวัน และ การรับประทานอาหารที่มีวิตามินเอ อี ซี บีรวม และ ไขมันดีเป็นส่วนประกอบ ก็ไม่ควรละเลย เพราะในผู้สูงอายุ จะมีความกระหายน้ำลดลง ทำให้ไม่ค่อยได้จิบ หรือ ดื่มน้ำ หรือ บางท่านชอบดื่มน้ำชามากกว่าน้ำเปล่า ก็ส่งผลทำให้น้ำในร่างกายไม่เพียงพอ ทำให้น้ำในเซลล์ผิวน้อยลง ความชุ่มชื้นในชั้นผิวก็ลดลง รวมไปถึงการขาดสารอาหารที่ดี มีประโยชน์ ก็ส่งผลให้ผิวแห้งจากภายในได้เช่นกัน

 

ในส่วนของการดื่มน้ำให้เพียงพอ หมอแนะนำให้ดื่มน้ำให้ได้ 5% ของน้ำหนัก​ตัว(สำหรับคนที่ไม่ได้ป่วยเป็นโรคไต ไม่มีอาการบวมน้ำ)​ เช่น น้ำหนัก 50 กิโลกรัม คำนวนได้เป็น 50 คูณ 5 = 250 หาร 100 เท่ากับ 2.5 ลิตรค่ะ 

 

วิธีสังเกตว่าดื่มน้ำเพียงพอแล้ว คือ ทุกครั้งที่ปัสสาวะ สีปัสสาวะ(สีฉี่)จะเป็นสีใส ไม่เหลือง สีปัสสาวะที่ใสจะเป็นตัวบ่งบอกว่าดื่มน้ำเพียงพอแล้วค่ะ

 

กินอะไรไม่ให้ผิวแห้ง


อาหารไขมันดี

ในส่วนของอาหารที่มีไขมันดีที่หมอแนะนำให้ทานเพื่อบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นจากภายในสู่ภายนอก ได้แก่

 

• น้ำมันมะกอก แนะนำใช้น้ำมันมะกอกปริมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ เพื่อปรุงอาหารประเภทผัด ใช้ทำสเต็ก ราดบนสลัด หรือใช้เป็นส่วนผสมในการทำน้ำสลัด

• อะโวคาโด แนะนำใช้เป็นส่วนประกอบในการทำอาหารหรือเครื่องดื่ม ไม่เกิน 1 ผลต่อวัน

• เมล็ดเจีย แนะนำให้นำมาบดละเอียดก่อนทาน ใช้ปริมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ เป็นส่วนประกอบในการทำอาหาร โรยบนอาหาร หรือผสมในเครื่องดื่ม

• ปลาแซลมอน ปลาทู ปลาซาร์ดีน ปลาต่างๆ แนะนำทานเป็นเมนูอาหารแบบปรุงสุกปริมาณ 200 กรัมต่อสัปดาห์

• ถั่ววอลนัต แนะนำทานไม่เกินวันละ 1 กำมือค่ะ

 

อาหารที่มีวิตามินเอ อี ซี และบีรวม 

การบำรุงผิวจากภายใน สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ วิตามิน ซึ่งวิตามินเอ อี ซี มักมีอยู่ในผักและผลไม้ ส่วนวิตามินบีรวมมักมีอยู่ในเนื้อสัตว์ ธัญพืช

 

• วิตามินอี ช่วยลดริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ลดรอยแผลเป็นและจุดด่างดำ ปกป้องผิวจากมลภาวะและแสงแดด อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี ได้แก่ น้ำมันมะกอก มะม่วง อะโวคาโด กล้วย และ กีวี่

• วิตามินเอ ช่วยบำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ ได้แก่ ผัก ผลไม้มีสีเหลือง สีส้ม สีเขียว เช่น ข้าวโพด แครอท ผักโขม ตำลึง ฟักทอง คะน้า มะละกอ มะม่วง แคนตาลูป

• วิตามินซี ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ช่วยสร้างคอลลาเจนให้ผิว ซึ่งอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินซี ได้แก่ ส้ม ฝรั่ง องุ่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มะขามป้อม มะนาว มะละกอ อะโวคาโด พริกหวาน ปวยเล้ง บล็อกโคลี คะน้า 

• วิตามินบีรวม ช่วยเพิ่มคอลลาเจนให้แก่ผิว ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว และช่วยป้องกันผิวแห้งลอก ริมฝีปากแห้งเป็นขุย อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบีรวม ได้แก่ อาหารจำพวกเนื้อสัตว์ ปลา ธัญพืช ข้าวกล้อง อะโวคาโด น้ำมันมะกอก

- ปริมาณผักผลไม้ที่ควรทานต่อวัน เท่ากับ 6 ทัพพี หรือ 400 กรัมต่อวัน
- ปริมาณโปรตีนจากพืชและสัตว์ที่ควรทานต่อวัน ในคนทั่วไปต้องการโปรตีน 1 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน เช่น น้ำหนักตัว 50 กิโลกรัม ควรทานโปรตีน 50 กรัมต่อวัน

เนื่องจากอาการผิวแห้งเกิดได้ทั้งจากปัจจัยภายนอกและภายใน ดังนั้นเราจึงควรฟื้นฟูและบำรุงผิวที่แห้ง กร้าน ขาดน้ำ จากทั้งภายนอกและภายในควบคู่กัน หากทำเพียงอย่างใดอย่างนึงอาจทำให้เห็นผลช้าหรือได้ประสิทธิภาพน้อย หมอแนะนำลองทำควบคู่กันอย่างต่อเนื่อง จะเห็นผลชัดเจนและรวดเร็วขึ้นค่ะ

 

การรักษาอาการผิวแห้งฉบับปุณรดายาไทย


หมอเจอเคสคนไข้ที่มีอาการผิวแห้งเยอะมาก โดยเฉพาะวัย 40 ปีขึ้นไป มักจะมีอาการคันร่วมด้วย อีกทั้งพบว่ามีปัญหาโรคผิวหนังอื่น ๆ ตามมา เพราะปล่อยไว้เรื้อรัง ไม่ได้ใส่ใจเท่าที่ควร เนื่องจากคิดว่าเป็นภาวะผิวแห้งธรรมดา ทำให้บางครั้งก็มีผื่นขึ้น หรือคันมากเวลากลางคืน ตอนอยู่ในห้องแอร์ อาการเหล่านี้จำเป็นที่จะต้องปรับสมดุลทั้งภายในและภายนอก รักษาที่ต้นเหตุ ขั้นแรกคือต้องหาสาเหตุการเกิดก่อนว่า คนไข้ที่มารักษามีภาวะปัจจัยใดบ้างที่กระทบ และขั้นที่สองคือการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวร่วมด้วย ผู้ที่มีปัญหาผื่นคันจะต้องทานยารักษา ปรับระบบจากภายในควบคู่ด้วยนะคะ

 

ขั้นแรก

 

การหาสาเหตุ คนไข้จำเป็นต้องสังเกตตัวเองร่วมด้วยในระหว่างการรักษา หรือถ้าเตรียมตัวก่อนรักษาได้จะดีมากเลยค่ะ จะทำให้เราสามารถที่จะแก้อาการได้ตรงจุด สิ่งที่เราต้องสังเกตคือ

• ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวและบำรุงผิวมีอะไรบ้าง มีส่วนประกอบที่ทำให้ผิวแห้งตึง มีความด่างสูง หรือมีค่า pH ที่มากเกินไปหรือเปล่า

• ผิวแห้งบริเวณไหนบ้าง บางคนมีผิวแห้งเฉพาะจุด มักเป็นตามโซนที่มีต่อมไขมันน้อย และกระทบกับสภาพแวดล้อมได้ง่าย

• มีอาการร่วมด้วย เช่น คัน มีผื่นขึ้น มีอาการแดงที่ผิว ผิวแตก ลอกเป็นขุยบ้างหรือไม่

• ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเวลาไหน ใช้หลังอาบน้ำทันทีไหม มีใช้ระหว่างวันด้วยไหม

• มีพฤติกรรมที่กระตุ้นอาหารหรือไม่ เช่น เหงื่อออกแล้วคัน ชอบเกาบริเวณที่ผิวแห้ง ไม่ค่อยได้บำรุงผิว อยู่ในที่อากาศเย็นเป็นประจำ ชอบทานอาหารรสเปรี้ยวจัด ดื่มน้ำน้อย เป็นต้น

• อายุเท่าไหร่ หากเป็นผู้หญิง อยู่ในวัยใกล้หมดประจำเดือนหรือยัง

 

ปัจจัยเหล่านี้จำเป็นมากสำหรับการแก้ภาวะผิวแห้ง ถ้าเราทราบรายละเอียดอาการ และสังเกตอาการตัวเองได้มากแค่ไหน การรักษาก็จะทำได้ตรงจุดมากขึ้น

 

ขั้นที่สอง 

 

การรักษาอาการผิวแห้งจากภายนอก หมอจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ให้ความชุ่มชื้นกับผิว 2 ชนิดเป็นหลัก ได้แก่ Derpa derma shower oil milk และ น้ำมันบำรุงผิว Shina oil ผลิตภัณฑ์สำหรับรักษาอาการผิวแห้งโดยเฉพาะ สกัดจากธรรมชาติ ไร้สารเคมี โดยมีสรรพคุณดังนี้

 

Derpa derma shower oil milk ออยล์อาบน้ำสูตรอ่อนโยน เหมาะสำหรับผิวแห้ง บอบบาง แพ้ง่าย

 

ออยล์อาบน้ำ แก้ผิวแห้งคัน

 

มีส่วนประกอบของ สารสกัดจาก White lilly, Coconut oil, Natural oil และอื่นๆ

 

สรรพคุณ

• ช่วยให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื่น ช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว ยับยั้งการก่อตัวของเมลานิน ช่วยผลัดเซลล์ผิว ทำให้ผิวพรรณกระจ่างใส

• ช่วยลดอาการแห้ง ลดอาการคัน รักษาโรคผิวหนัง

• ช่วยซ่อมแซมและดูแลผิวอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับบำรุง และฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้าน ผิวแพ้ง่าย ลดการอักเสบของผิว ช่วยลดริ้วรอย

 

น้ำมันบำรุงผิว Shina oil ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีกว่าโลชั่น ซึมไว ไม่ทำให้รู้สึกหนักผิว พร้อมกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวพร้อมช่วยรักษาสมดุลให้กับผิว

 

 

มีส่วนประกอบของ น้ำมันสวีทอัลมอนด์, น้ำมันเมล็ดองุ่น, น้ำมันส้มโอออร์แกนิค, น้ำมันสกัดจากผลเบอกามอท, น้ำมันหอมระเหยโรสแมรี่, น้ำมันหอมระเหยไซเปรส และอื่นๆ

 

สรรพคุณ

• กักเก็บความชุ่มชื้น คืนความสมดุล กระตุ้นการไหลเวียนเลือดในผิว ชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ นุ่ม น่าสัมผัส

• ช่วยฟื้นฟูผิวที่แห้งกร้าน แตก ลอกเป็นขุย ให้กลับมาชุ่มชื้น เรียบเนียน 

• ช่วยลดอาการคัน ระคายเคือง และช่วยสมานแผลที่เกิดจากการเกา หรือ การเสียดสี หรืออาการแพ้ที่ผิวหนัง 

• ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อรา เชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ซึ่งเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการผิวหนังอักเสบ 

• ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ช่วยลดความเครียด คลายกังวล ปรับสมดุลของอารมณ์ด้วยกลิ่นจากน้ำมันอโรม่าธรรมชาติ

 

คำแนะนำในการใช้ ควรใช้ทันทีหลังอาบน้ำเสร็จ เช็ดผิวให้พอหมาดและมีความชื้นอยู่ การทาออยล์ช่วงนี้จะช่วยกักเก็บความชุ่มชื้น แล้วซึมซาบสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ

 

เนื่องจากผิวแห้งพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ดังนั้นการดูแลผิวหนังในช่วงอายุที่มากขึ้นจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการมีสุขภาพผิวที่ดี จะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดอาการคัน ผื่นแพ้ ที่รบกวนการนอนหลับและยังทำให้เรามีรูปลักษณ์ที่ดูอ่อนเยาว์และสดใสมากขึ้นได้ค่ะ

 

ยิ่งอายุมากขึ้นเรายิ่งต้องดูแลสุขภาพผิวเป็นอย่างดี หมออยากเชิญชวนท่านผู้อ่านทุกท่านมาเปลี่ยนผิวแห้งให้กลับชุ่มชื้นและดูอ่อนเยาว์ด้วยผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติกันค่ะ เมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นประจำร่วมกับฟื้นฟูและบำรุงผิวจากทั้งภายนอกและภายในควบคู่กัน หมอรับรองได้ว่าผิวหนังที่แห้ง แตก เป็นขุย จะค่อยๆกลับมามีความชุ่มชื้น อิ่มน้ำ แลดูสุขภาพดีอย่างแน่นอนค่ะ

 

ปุณรดายาไทยมีผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและทีมแพทย์แผนไทยที่มีประสบการณ์ยินดีให้คำปรึกษาสำหรับการใช้สมุนไพรรักษาอาการผิวแห้งโดยเฉพาะค่ะ
 

เมื่อไหร่ที่คุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และต้องการทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งมากขึ้นด้วยศาสตร์ธรรมชาติ ที่นำเอาการแพทย์แผนไทยมาประยุกต์ใช้ นึกถึงปุณรดายาไทยนะคะ เพราะเราคือ “แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด”

 

#ปุณรดายาไทย #ปุณรดายาไทยแพทย์แผนไทยที่ใกล้คุณที่สุด    

#เปลี่ยนผิวแห้งให้ชุ่มชื้น #อาการผิวแห้ง #รักษาผิวแห้ง #เวชสำอางค์สำหรับผู้สูงอายุ

 

ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ

 

 

 

 

 

สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027


ทีมแพทย์แผนไทยปุณรดา

สุรดา เลิศเกศราธรรม

ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร

"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"

พท.ป.เอกพล ศิริพงษ์เวคิน

แพทย์แผนไทยประยุกต์

" ใส่ใจทุกความต้องการ ดูแลเหมือนคนในครอบครัว "

นศ.พท.ป. สุพัชชา พรมน้ำ

แพทย์แผนไทย

" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "


ปุณรดา ยาไทย
แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด

ท่านจะได้รับทราบโปรโมชั่นพิเศษก่อนใครทาง LINE@ พร้อมบริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์แบบส่วนตัวฟรี ทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.

ข้อความถึงร้าน


× คุณได้เพิ่มสนค้าลงตะกร้า ดูสินค้าในตะกร้า