เคลียร์ชัดทุกข้อสงสัย ไขข้อข้องใจตกขาวในวัยทอง หากคุณกำลังมีอาการต้องอ่านให้จบ!
ช่วงวัยหมดประจำเดือนเป็นช่วงชีวิตหนึ่งที่ผู้หญิงทุกคนต้องพบเจอเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงอายุตั้งแต่ 40 ปีเป็นต้นไป ซึ่งหลังหมดประจำเดือนแต่ละคนจะมีอาการที่แตกต่างกันไป โดยส่วนใหญ่คนไข้ที่เข้ามาปรึกษาหมอมักจะมีอาการร้อนวูบวาบ นอนไม่หลับ หงุดหงิดง่าย ปวดเมื่อยตามร่างกาย และ ส่วนน้อยที่พบ คือ มีตกขาวตอนหมดประจำเดือน
คุณ A (นามสมมติ) คนไข้ที่หมอดูแลรักษาอยู่ เป็นคนหนึ่งที่มีตกขาวตอนหมดประจำเดือน อาการตกขาวในตอนนี้ทำให้คุณ A มีความรู้สึกกังวลยิ่งกว่าเป็นตกขาวในช่วงวัยรุ่นหรือวัยทำงานเสียอีก ในเมื่อเข้าสู่วัยทอง ฮอร์โมนเพศหมดไปแล้ว ทำไมยังมีตกขาวอยู่!?
วันนี้หมอป๊อปจะมาบอกเล่าสาเหตุการเกิดตกขาว อาการที่อาจเกิดขึ้นในวัยหมดประจำเดือน รวมถึงวิธีการรับมือกับตกขาวในช่วงวัยหมดประจำเดือนอย่างละเอียด หากใครกำลังมีอาการตกขาวแบบคุณ A มาอ่านบทความนี้ไปพร้อมๆกันนะคะ
คำตอบ คือ อาการตกขาวช่วงวัยหมดประจำเดือน มีทั้งแบบที่เป็นอาการปกติ และ ผิดปกติ โดยขึ้นอยู่กับสาเหตุ และ ลักษณะของตกขาว ร่วมด้วยค่ะ
สำหรับสาเหตุของตกขาวในช่วงวัยหมดประจำเดือน สามารถแบ่งตามลักษณะของตกขาวได้ ดังนี้ค่ะ
•ตกขาวแบบปกติ
1. เกิดจากการที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนค่อยๆลดลง แต่ยังไม่หมดไป มักเกิดได้ในช่วง 1 ปีแรกที่เริ่มหมดประจำเดือน โดยฮอร์โมนยังทำหน้าที่ช่วยสร้างความชุ่มชื้นให้กับช่องคลอดอยู่ จึงยังมีตกขาวสีใสหรือสีขาวขุ่นออกมาได้ แต่ปริมาณจะค่อยๆลดลงจนหมดไป
2. พฤติกรรมบางอย่าง เช่น การรับประทานยาฮอร์โมนทดแทน หรือรับประทานสมุนไพรที่มีส่วนผสมของว่านชักมดลูก กวาวเครือ ทำให้ช่องคลอดกลับมาชุ่มชื้น จึงมีตกขาวเกิดขึ้น หรือ การมีเพศสัมพันธ์ ทำให้มีน้ำหล่อลื่นออกมามากขึ้นจนทำให้เกิดตกขาวได้
• ตกขาวแบบผิดปกติ
1. การติดเชื้อ เนื่องจากผนังช่องคลอดในหญิงวัยทองจะบางลง จึงทำให้ติดเชื้อและเกิดตกขาวที่มีสีเขียว สีเหลือง มีอาการคัน และมีกลิ่นได้ง่ายกว่าวัยอื่นๆ
2. โรคมะเร็ง เช่น มะเร็งปากมดลูก มะเร็งโพรงมดลูก เนื่องจากอายุที่มากขึ้นจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งได้มากขึ้น ซึ่งโรคมะเร็งจะทำให้เกิดตกขาวที่มีสีปนเลือดหรือมีสีน้ำตาล มีกลิ่นเหม็นคาวปลารุนแรง และมีอาการแสบคันร่วมด้วย
ถึงแม้เราจะหมดประจำเดือนไปแล้ว ก็สามารถมีตกขาวได้ หากเป็นตกขาวที่ไม่มีกลิ่น สีใสหรือสีขาว ก็สามารถสบายใจได้เพราะเป็นตกขาวปกติ แต่หากเป็นตกขาวที่มีสีเขียว สีเหลือง สีปนเลือด สีน้ำตาล มีอาการแสบ คัน และมีกลิ่นร่วมด้วย จัดเป็นอาการที่ไม่ควรปล่อยไว้ ควรรีบเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเพื่อที่จะได้รักษาได้อย่างถูกต้องค่ะ
ในกรณีของคุณ A คนไข้ของหมอ เมื่อซักประวัติแล้วพบว่าคนไข้มีอายุ 45 ปี เพิ่งหมดประจำเดือนมา 5 เดือน มีตกขาวสีขาวขุ่น ไม่มีกลิ่น ไม่คัน เป็นๆหายๆมาตั้งแต่เริ่มหมดประจำเดือนจนถึงปัจจุบัน สรุปได้ว่าเป็นตกขาวปกติที่เกิดจากการที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนค่อยๆลดลง แต่ยังไม่หมดไปค่ะ พอคุณ A ทราบว่าอาการของตนเองปกติ ก็โล่งใจไปเลยค่ะ
นอกจากอาการตกขาวแล้ว คุณ A ยังมีอาการร้อนวูบวาบ เหงื่อออกเยอะ ปวดเมื่อย และนอนไม่หลับร่วมด้วย ซึ่งอาการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของอาการวัยทอง จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธีร่วมด้วย แล้วตอนนี้ท่านผู้อ่านมีอาการอื่นๆอย่างไรบ้างคะ อาการที่เป็นอยู่เข้าข่ายวัยทองหรือไม่ มาลองเช็คลิสต์อาการไปพร้อมๆกันกับหมอนะคะ
อาการทางร่างกาย
• มีอาการตกขาวในช่วงปีแรกที่เริ่มหมดประจำเดือน เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนค่อยๆลดลงแต่ยังไม่หมดไป จึงยังมีตกขาวออกมาได้ แต่จะมีในปริมาณที่น้อยลงไปเรื่อยๆ
• มีอาการคันแสบร้อน หรือระคายเคืองในช่องคลอด เนื่องจากความเป็นกรดในช่องคลอดลดลง ทำให้เกิดการอักเสบหรือติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
• ร้อนวูบวาบตามร่างกาย มักเกิดบ่อยในช่วงปีแรกที่หมดประจำเดือนและอาจมีอาการต่อเนื่องยาวนานไปจนถึง 15 ปีหลังจากประจำเดือนหมด
• เหงื่อออกในตอนกลางคืน นอนหลับยาก นอนไม่หลับ
• เหนื่อยง่าย ใจสั่น เป็นอาการที่เกิดได้เป็นระยะ และไม่มีรูปแบบที่แน่นอน
• ผิวหนังบาง แห้ง มีอาการคันตามผิวหนัง เกิดผื่นแพ้ง่าย
• เส้นผมหยาบ แห้ง บาง และ หลุดร่วงง่าย
• ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ กระดูก และ ข้อ
• น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานได้น้อยลง
• การตอบสนองทางเพศลดลง เจ็บปวดเวลามีเพศสัมพันธ์และไม่ถึงจุดสุดยอด เนื่องจากช่องคลอดมีผนังบางลง การผลิตน้ำหล่อลื่นจากต่อมต่างๆ ภายในระบบสืบพันธุ์ลดลง
อาการทางจิตใจ
• ซึมเศร้า
• อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย
• สมาธิสั้น หลงลืมง่าย
เป็นอย่างไรบ้างคะ ท่านผู้อ่านมีอาการตรงตามเช็คลิสต์เหล่านี้กี่ข้อกันบ้างคะ สำหรับท่านผู้อ่านที่มีอาการตกขาวและอาการวัยทองอื่นๆร่วมด้วย ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ สามารถดูแลสุขภาพรวมถึงรับมือกับอาการตกขาวเหมือนกันกับที่หมอได้แนะนำคุณ A ไปด้วยวิธีการดังต่อไปนี้เลยค่ะ
1. รักษาความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้น ช่องคลอด ให้แห้งสะอาดอยู่เสมอ ไม่ปล่อยให้เกิดความอับชื้น เพราะเป็นสาเหตุของการระคายเคืองและเกิดตกขาวมากขึ้น ควรล้างจุดซ่อนเร้น ด้วยน้ำ และสบู่อ่อนๆ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีค่า pH 3.5 ถึง 4.5 เพราะ ค่า pH ที่บ่งบอกถึงสุขภาพจุดซ่อนเร้นที่ดีนั้น ควรจะมีค่าอยู่ระหว่าง 3.5 ถึง 4.5 และไม่ควรใช้สบู่หอม สเปรย์พ่น ฟองสบู่ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีชนิดต่างๆ เพื่อล้างสวนช่องคลอดเพราะจะทำให้ค่า pH จุดซ่อนเร้นเสียสมดุล
2. สวมใส่กางเกงชั้นในที่สะอาด ไม่ควรใส่กางเกงในซ้ำ และ ควรทำจากผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่น ผ้าฝ้าย เพราะไม่หนา และ ไม่อับชื้นง่าย
3. ลด-หลีกเลี่ยงการทานสัตว์เนื้อแดง อาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากช่วงวัยหมดประจำเดือนฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดต่ำลง ส่งผลให้ไขมันสะสมที่หน้าท้อง อ้วนได้ง่าย รวมถึงทำให้เกิดอาการช่องคลอดแห้ง ติดเชื้อ และเกิดตกขาวมีกลิ่นได้ง่าย
4. หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารหมักดอง เครื่องเทศ ผักกลิ่นฉุน เนื่องจากทำให้สภาวะสมดุลของกรด-ด่างบริเวณช่องคลอดเสียไป และเป็นอาหารที่ทำให้แบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่ไม่ดีมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น
5. ดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอ โดยดื่มน้ำให้ได้ 5% ของน้ำหนักตัว เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเซลล์ในร่างกายและช่องคลอด
6. ออกกำลังกายและบริหารบริเวณเชิงกรานเป็นประจำ 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30 นาที เพื่อเพิ่มการไหลเวียนเลือดมาที่ส่วนล่าง เช่น โยคะ กายบริหาร แอโรบิก ปั่นจักรยาน เป็นต้น และแนะนำให้ฝึกขมิบช่องคลอด เพื่อทำให้อุ้งเชิงกรานและกล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอดแข็งแรง โดยนั่งผ่อนคลาย หายใจเข้าเต็มที่ ขมิบช่องคลอดและรูทวาร กลั้นหายใจแล้วนับ 1-10 จากนั้นผ่อนลมหายใจออก ทำวันละ 50-100 ครั้ง
7. ทำกิจกรรมที่ฝึกสมาธิ ผ่อนคลายความเครียด เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยให้ตกขาวหายเร็วขึ้น เช่น ฟังเพลง ร้องเพลง ฟังธรรมะ ดูหนัง ปลูกต้นไม้ เป็นต้น
8. พักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 8 ชั่วโมง โดยเข้านอนก่อน 22.00 น. เพื่อเสริมสร้างภูมิต้านทานเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดตกขาว และทำให้สุขภาพแข็งแรง
9. หลีกเลี่ยงการใช้ยาปฏิชีวนะเกินความจำเป็น เพราะจะทำให้บริเวณช่องคลอดเสียสมดุลความเป็นกรด-ด่าง ก่อให้เกิดภาวะติดเชื้อได้ง่ายค่ะ
อาการตกขาวในช่วงวัยหมดประจำเดือน สามารถเกิดได้จากหลายๆปัจจัยร่วมกัน ดังนั้นการดูแลและรักษา ต้องทำหลายๆวิธีร่วมกันจึงจะเห็นผลได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของการดูแลสุขภาพหมอจะเน้นย้ำในเรื่องของการดูแลความสะอาด และที่สำคัญมากๆก็คือเรื่องอาหารการกิน ดังคำเปรียบเปรยที่ว่า “You are what you eat” “คุณกินอะไรเข้าไป คุณก็เป็นอย่างนั้น” หมายถึง อาหารที่เราเลือกทานมีผลต่อสุขภาพ เพราะอาหารที่เรารับเข้าสู่ร่างกายไม่เพียงแต่ให้พลังงานเท่านั้น แต่ด้วยวิตามิน แร่ธาตุ และสารอาหารที่มีในแต่ละส่วนประกอบจะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันของเรา ดังนั้นการทานอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการที่ดีและสมดุล จะช่วยให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง ในทางกลับกันการทานอาหารที่ไม่ดีต่อร่างกาย จะทำให้มีปัญหาสุขภาพในระยะยาวได้ค่ะ
สำหรับอาหารที่เหมาะสำหรับคนที่มีอาการตกขาว หมอแนะนำทานผัก ผลไม้ อาหารที่มีกากใยสูง และเนื้อสัตว์ย่อยง่าย ได้แก่
• ข้าวไม่ขัดสี และ ธัญพืชเต็มเมล็ด เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวแดง ข้าวหอมนิล ข้าวกล้องงอก งา รำข้าวสาลี ลูกเดือย ถั่ว 5 สี ถั่วลันเตา กลาโนล่า ข้าวโอ๊ต ควินัว เมล็กแฟลกซ์บด เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ผงคาเคา เก๋ากี้ เม็ดบัว ข้าวโพด เป็นต้น เนื่องจาก อุดมไปด้วยวิตามินอีสูง ดีต่อสุขภาพช่องคลอด เพราะวิตามินอีสามารถช่วยป้องกันช่องคลอดแห้ง ช่วยลดอาการตกขาวผิดปกติ
• ผักต่างๆ
- ผักตระกูลกะหล่ำ ได้แก่ บล็อคโคลี่ ผักกาดหอม กวางตุ้ง กะหล่ำดอก ผักกาดขาว ไชเท้า เนื่องจากผักเหล่านี้มีคุณสมบัติต่อต้านมะเร็ง อุดมด้วยธาตุโบรอน ช่วยให้ระบบการไหลเวียนเลือดดี ช่วยป้องกันไม่ให้ช่องคลอดแห้ง ป้องกันตกขาวผิดปกติ
- กระเทียม ในกระเทียมมีฤทธิ์ต้านเชื้อราและต้านจุลินทรีย์ ช่วยรักษาอาการติดเชื้อราและยีสต์ในช่องคลอดได้
• ผลไม้ ได้แก่ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น แครนเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ รวมถึงแอปเปิ้ล องุ่น ส้ม มะละกอสุก กล้วยน้ำว้า กล้วยหักมุก แก้วมังกร แตงโม ทับทิม แคนตาลูป แตงไท ชมพู่ ฝรั่ง เชอร์รี่ มังคุด แอบเปิ้ล เนื่องจากผลไม้เหล่านี้ อุดมไปด้วยวิตามินซีสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยปรับสภาพกรด-เบสในช่องคลอดให้ปกติ ป้องกันการติดเชื้อในช่องคลอด
• เนื้อสัตว์ ได้แก่ ไก่ไม่ติดมัน ไข่ขาว ปลาทับทิม ปลาจาละเม็ด ปลาอินทรีย์สด ปลาตะเพียน ปลายี่สก ปลากระบอก ปลาม้า ปลากุเลา ปลาเห็ดโคน(ปลาทราย) ปลาแดงทะเล ปลาลิ้นหมา ปลาหางเหลือง เนื่องจากย่อยง่าย มีไขมันดีในปริมาณที่เหมาะสมต่อร่างกาย
สำหรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพรวมถึงการเลือกทานอาหารสำหรับตกขาวตามรายละเอียดที่หมอนำมาบอกเล่าในวันนี้ หมอได้แนะนำให้คุณ A ปฏิบัติตามให้ได้มากที่สุด ร่วมกับการจ่ายยาสมุนไพรสำหรับรักษาอาการตกขาวและอาการวัยทอง เพื่อปรับสมดุลฮอร์โมนจากภายใน รักษาอาการวัยทองให้หายสนิทค่ะ
การรักษาอาการตกขาวในช่วงวัยหมดประจำเดือนรวมถึงการรักษาอาการวัยทองที่ปุณรดายาไทย หมอจะเลือกใช้ตำรับยาสมุนไพรชุด B-young set ประกอบด้วยสมุนไพร 2 ตำรับ ดังนี้ค่ะ
ยาสตรี คานิต (B-Kanit) ตำรับสมุนไพรบำรุงโลหิต เหมาะสำหรับผู้มีอาการวัยทอง
• มีส่วนประกอบของ ดอกคำไทย แก่นฝาง ดอกสารภี เกสรดอกบัวหลวง เทียนดำ เทียนแดง โกฐสอ กฤษณา ดอกจันทน์ และตัวยาอื่นๆ
• มีสรรพคุณ ช่วยบำรุงโลหิต
เมื่อเลือดสมบูรณ์ดี ไหลเวียนได้ดี จะช่วยลดอาการร้อนวูบวาบ ร้อนๆ หนาวๆ ภายใน ลดอาการกระสับกระส่าย ไม่สบายตัว ช่วยให้ฮอร์โมนต่างๆ ในร่างกายทำงานเป็นปกติ ช่วยรักษาอาการตกขาว เนื่องจากเลือดและระบบไหลเวียนเลือด เป็นตัวควบคุมและรักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย ช่วยปรับอุณหภูมิร่างกายให้ปกติ เป็นตัวกลางในการนำพาฮอร์โมน ภูมิคุ้มกัน เอนไซม์ และสารอาหารต่างๆไปเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย
• มีส่วนประกอบของ ดอกบุนนาค เกสรบัวหลวง กฤษณา ลูกจันทน์ แก่นจันทน์แดง เทียนดำ รากช้าพลู หัวแห้วหมู โกฐเชียง และสมุนไพรอื่นๆ
• มีสรรพคุณ แก้ลมคลื่นเหียนอาเจียน
เมื่อธาตุลมในร่างกายไม่สมดุล จะทำให้มีอาการผิดปกติเกี่ยวกับระบบไหลเวียนของโลหิต เช่น วิงเวียนศีรษะ หน้ามืด คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ปวดเมื่อย นอนไม่หลับ หากเราบำรุงธาตุลมในร่างกายให้ปกติ สมดุล จะช่วยให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า แก้อาการอ่อนเพลีย ช่วยให้นอนหลับสบาย หลับลึก และ หลับสนิทมากขึ้น
หลังจากที่คุณ A รับการรักษาครบ 2 สัปดาห์แล้ว หมอได้ติดตามอาการตามแผนการรักษาแบบต่อเนื่องของปุณรดายาไทย คุณ A แจ้งหมอเข้ามาว่าอาการตกขาวและอาการวัยทองอื่นๆเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ 2 สัปดาห์แรกที่รับการรักษาเลยค่ะ โดยตอนนี้มีตกขาวน้อยลง อาการร้อนวูบวาบลดลง สบายตัวมากขึ้น และการนอนหลับเริ่มดีขึ้น ถึงแม้ว่าการเลือกทานอาหารจะทำตามได้ยาก เพราะปกติแล้วคุณ A ชอบทานอาหารรสจัด ส้มตำ ปลาร้า หน่อไม้ดอง ข้าวเหนียว อาหารปิ้งย่าง และชอบทานขนมหวานเป็นประจำ ประกอบกับในท้องตลาดมีอาหารสุขภาพค่อนข้างน้อย การคุมอาหารจึงเป็นเรื่องยากมากขึ้น แต่คุณ A ก็พยายามเลือกทานมากที่สุดรวมถึงซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารทานเอง จึงควบคุมเรื่องอาหารได้ดีกว่าเมื่อก่อนมาก พอปรับอาหาร ทานยาสมุนไพร และดูแลสุขภาพต่อเนื่อง แนวโน้มอาการตกขาวและอาการวัยทองจึงดีขึ้นชัดเจนค่ะ
กรณีของคุณ A หมอได้ทำการรักษาต่อเนื่องเป็นเวลา 3 เดือน อาการตกขาวและอาการวัยทองจึงหายสนิท ทั้งนี้ระยะเวลาการรักษาขึ้นอยู่กับบุคคล ความหนักเบาของอาการ และความเรื้อรังที่เป็นร่วมด้วยนะคะ ถ้าเริ่มมีอาการแล้วรักษาในทันที จะหายเร็วที่สุดค่ะ
ยิ่งอายุมากขึ้นเรายิ่งต้องดูแลร่างกายในทุกๆด้านเป็นอย่างดี เพื่อที่จะเป็นผู้สูงวัยที่มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ หากท่านผู้อ่านกำลังมีอาการตกขาวในช่วงวัยหมดประจำเดือนแบบคุณ A หมออยากชวนให้มาฟื้นฟูสุขภาพด้วยกันจากภายในสู่ภายนอก รักษาอาการตกขาวที่กวนใจให้หายไป เพื่อสุขอนามัยที่ดีตลอดไปกันค่ะ
ปุณรดายาไทยมีผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและทีมแพทย์แผนไทยที่มีประสบการณ์ยินดีให้คำปรึกษาสำหรับการใช้สมุนไพรรักษาอาการตกขาวในวัยหมดประจำเดือนโดยเฉพาะค่ะ
เมื่อไหร่ที่คุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และต้องการทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งมากขึ้นด้วยศาสตร์ธรรมชาติ ที่นำเอาการแพทย์แผนไทยมาประยุกต์ใช้ นึกถึงปุณรดายาไทยนะคะ เพราะเราคือ “แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด”
#ตกขาว #วิธีรักษาตกขาว #สีตกขาว #แก้ตกขาวด้วยวิธีธรรมชาติ
#ตกขาวตอนหมดประจำเดือน #อาการตกขาว
#ตกขาวเกิดจากอะไร
#ปุณรดายาไทย
#ปุณรดายาไทยแพทย์แผนไทยที่ใกล้คุณที่สุด
ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "