ต่อมบาร์โธลินอักเสบถือเป็นโรคภัยใกล้ตัวผู้หญิงในวัยแรกรุ่น จนถึง วัยหมดประจำเดือน มักพบมากในผู้หญิงวัยเจริญพันธ์ุ วัยรุ่น วัยทำงานค่ะ
โดยอุบัติการตรวจพบต่อมบาร์โธลินอักเสบคิดเป็นร้อยละ 2 ของการนัดตรวจทางนรีเวชทั้งหมดต่อปี และมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งต่อมบาร์โธลินอักเสบเป็นหนึ่งในโรคที่คนไข้เข้ามาปรึกษาหมอที่ปุณรดายาไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคนไข้ในประเทศไทย และคนไข้ที่อยู่ต่างประเทศเลยค่ะ
คุณฟ้า(นามสมมติ) เป็นหนึ่งในคนไข้ของหมอ ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ติดต่อหมอเข้ามาทางไลน์เพื่อปรึกษาอาการต่อมบาร์โธลินอักเสบ และรับการรักษากับหมอ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นดีเกินคาด อาการต่อมบาร์โธลินอักเสบสามารถหายสนิทได้ภายใน 2 สัปดาห์!!
หากท่านผู้อ่านกำลังมีอาการต่อมบาร์โธลินอักเสบอยู่ หรือ สงสัยว่าตัวเองเป็นต่อมบาร์โธลินอักเสบหรือเปล่า ไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ วันนี้หมอมีข้อมูลสุขภาพรวมถึงแนวทางการรักษาต่อมบาร์โธลินมาฝากค่ะ
ต่อมบาร์โธลิน คือ ต่อมผลิตเมือก อยู่ตรงบริเวณปากช่องคลอด มีขนาดขนาด 0.5 เซนติเมตร อยู่ที่ส่วนปลายด้านล่างของแคมเล็กทั้งสองข้าง
หน้าที่ของต่อมบาร์โธลิน:
-ผลิตเมือก เพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับช่องคลอด
-ป้องกันช่องคลอดแห้ง
-ป้องกันเชื้อโรค
-ป้องกันเนื้อเยื่อช่องคลอดเกิดการเสียดสีจนเกิดการอักเสบระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
ปกติไม่สามารถคลำพบได้ ยกเว้น เกิดการอักเสบขึ้นมาจึงจะคลำพบ ได้ค่ะ
• การอุดตันของท่อที่ทอดจากต่อมบาร์โธลินไปยังพื้นผิวของช่องคลอด
• การติดเชื้อแบคทีเรียต่างๆ เช่น เชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli (E.coli) ที่อยู่ในลำไส้และอุจจาระ หรือ แบคทีเรียที่ทำให้เกิดการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ เช่น แบคทีเรีย Neisseria Gorrhoese ที่ทำให้เกิดโรคหนองในแท้ และแบคทีเรีย Chlamydia trachomatis ที่ทำให้เกิดโรคหนองในเทียม
• การบาดเจ็บจากการเสียดสีที่อวัยเพศ
ส่วนใหญ่แล้วการอักเสบของต่อมบาร์โธลินมักเป็นขึ้นมาเองโดยที่ไม่ทราบสาเหตุชัดเจน หากตรวจดูจะพบว่ามีการอุดตันของท่อต่อมบาร์โธลินและมีการติดเชื้อเกิดขึ้น
เมื่อต่อมบาร์โธลินอักเสบจะมีอาการแตกต่างกันตามระยะเวลาที่เป็น รวมถึงร่างกายของแต่ละคนด้วยค่ะ
อาการของต่อมบาร์โธลินอักเสบมีตั้งแต่ เริ่มมีอาการเพียงเล็กน้อย ไปจนถึง มีอาการมาก บางท่านอาจมีเพียงข้อใดข้อหนึ่ง หรืออาจมีทุกข้อเลยก็ได้ค่ะ
• คลำเจอก้อนบริเวณปากช่องคลอด มักพบเพียงข้างใดข้างหนึ่ง
• มีอาการปวด บวม อักเสบ
• มีหนองภายใน หรือ มีหนองไหลออกมาจากต่อมบาร์โธลิน
• มีไข้
จากอาการ 4 ข้อนี้ ท่านผู้อ่านมีอาการตรงตามข้อไหนบ้างคะ? ในส่วนของคุณฟ้าคนไข้ของหมอมีอาการคลำเจอก้อนบริเวณปากช่องคลอดและมีอาการบวมเจ็บร่วมด้วย พอเป็นขึ้นมาแล้วค่อนข้างรบกวนการใช้ชีวิต จึงอยากรักษาให้หาย ไม่อยากให้เกิดอาการขึ้นมาอีก ซึ่งการรักษา ป้องกัน และลดอาการที่เป็นจะต้องหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงที่กระตุ้นอาการร่วมด้วย
• เดินเยอะ ทำให้เกิดการเสียดสีจนต่อมบาร์โธลินอักเสบ
• นั่งนาน ทำให้เกิดการกดทับบริเวณก้นและอวัยวะเพศจนเกิดความอับชื้น เกิดการอักเสบ ติดเชื้อได้ง่าย
• มีเพศสัมพันธ์ ทำให้เกิดการเสียดสีจนต่อมบาร์โธลินอักเสบ
• ความอับชื้น ส่งผลให้แบคทีเรียที่ไม่ดีเติบโตและเพิ่มจำนวนขึ้นจนทำให้เกิดการติดเชื้อ
• สวมชุดที่รัดแน่น ทำให้เกิดการเสียดสีจนต่อมบาร์โธลินอักเสบ
• อาหารบางชนิด เมื่อทานเป็นประจำ ทานบ่อยสามารถกระตุ้นการอักเสบได้ เช่น อาหารหมักดอง อาหารทะเล ของทอดของมัน
• การนอนดึก พักผ่อนไม่พอ ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ติดเชื้อได้ง่าย
หากท่านผู้อ่านมีพฤติกรรมเหล่านี้อยู่ขณะที่มีอาการอักเสบ หมอแนะนำให้ลดและหลีกเลี่ยง เพื่อให้อาการหายเร็วขึ้นนะคะ สำหรับคุณฟ้าได้แจ้งหมอว่าก่อนมีอาการต่อมบาร์โธลินอักเสบมีการนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ สวมชุดที่รัดแน่น และ ทานของทอดบ่อย หมอจึงได้ให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพ เพื่อช่วยบรรเทาอาการและประคองอาการ ช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นในขณะที่รอการรักษา เพราะการจัดส่งยาสมุนไพรไปต่างประเทศค่อนข้างใช้เวลามากกว่าการจัดส่งในประเทศค่ะ
สำหรับท่านใดที่กำลังหาวิธีดูแลสุขภาพสำหรับต่อมบาร์โธลินอักเสบอยู่ ลองทำตามนี้ได้เลยนะคะ
1. หากมีอาการปวด บวม เจ็บ แนะนำให้แช่น้ำอุ่นผสมผงแช่ So-Fin ครั้งละ 10-15 นาที เพื่อช่วยฆ่าเชื้อ กระจายเลือดลมให้ไหลเวียนดีขึ้น ลดภาวะการอักเสบ บวม แดง
1. หากมีหนอง ไม่ควรบีบหนองออกเอง เมื่อพบถุงน้ำจากการบวมของต่อมบาร์โธลิน เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
2. รักษาความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้น และล้างจุดซ่อนเร้นด้วยน้ำสะอาด เพื่อให้ปริมาณแบคทีเรียสมดุล ไม่ทำให้เกิดการอักเสบระคายเคือง
3. งดทานอาหารที่กระตุ้นการอักเสบ(อาหารแสลง) ได้แก่ อาหารรสจัด อาหารทะเล อาหารหมักดอง ของทอด ของมัน ผลไม้ฤทธิ์ร้อน แป้งขัดขาว แป้งสาลี เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เพราะอาการเหล่านี้กระตุ้นการอักเสบ ทำให้ปวด เจ็บ มากขึ้น
4. หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่ผสมน้ำหอม สเปรย์พ่น หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีชนิดต่างๆ เพื่อล้างสวนช่องคลอด เพราะจะทำให้แบคที่เรียที่ดีในช่องคลอดตายไปด้วย เสี่ยงทำให้ติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
5. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่มีอาการ เพราะจะทำให้เกิดการเสียดสีจนต่อมบาร์โธลินอักเสบมากขึ้น หากเลี่ยงไม่ได้ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์
6. หลีกเลี่ยงการนั่งนาน อยู่ท่าเดิมนานๆ หรือ การออกกำลังกายที่ก่อให้เกิดการเสียดสี เช่น ปั่นจักรยาน วิ่ง เดินเร็ว เพราะจะทำให้เกิดการอักเสบของต่อมบาร์โธลินมากขึ้น
วิธีการ 7 ข้อนี้ หมอแนะนำให้ทำต่อเนื่องเป็นประจำจึงจะเห็นผลชัดเจน และแนะนำให้ทำร่วมกับควบคุมอาหารแสลง เพราะการทานอาหารที่ไม่ดีก็มีส่วนทำให้อาการแย่ลงได้ อาหารแสลงที่ควรหลีกเลี่ยงมีดังนี้ค่ะ
1. แป้งขัดขาว แป้งสาลี ขนมปัง เส้นก๋วยเตี๋ยว ซาลาเปา เพราะอาหารเหล่านี้มีการเปลี่ยนเป็นน้ำตาลได้ไว เมื่อน้ำตาลในเลือดสูง จะทำให้เกิดการอักเสบ และน้ำตาลเป็นอาหารของแบคทีเรีย จะทำให้จำนวนเชื้อแบคทีเรียที่อวัยวะเพศ ช่องคลอด และต่อมบาร์โธลินเพิ่มมากขึ้น
2. ผลไม้ฤทธิ์ร้อน เช่น ทุเรียน เงาะ ลำไย ลิ้นจี่ ลองกอง เป็นต้น เนื่องจากให้พลังงานสูง มีน้ำตาลสูง กระตุ้นการอักเสบ
3. อาหารรสจัดทุกชนิด(เปรี้ยว หวาน เผ็ด เค็ม จัด) เนื่องจากอาหารรสจัดกระตุ้นความร้อนและการอักเสบในร่างกาย โดยเฉพาะรสหวาน น้ำตาลสูง จะกระตุ้นให้เชื้อแบคทีเรียและเชื้อราเติบโตและเกิดการอักเสบตามมา
4. อาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า กะปิ หน่อไม้ ผักดอง ผลไม้ดอง เพราะอาหารเหล่านี้มีแบคทีเรีย ทำให้เชื้อแบคทีเรียในช่องคลอดมากขึ้น และกระตุ้นการอักเสบของต่อมบาร์โธลินมากขึ้น
5. อาหารทะเล เช่น แมงกะพรุน หอย แมงดา หมึก กุ้ง เนื่องจากมีคอเรสเตอรอลสูง กระตุ้นให้เกิดตกขาวและคันในช่องคลอด รวมถึงทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
6. ของทอด ของมัน กะทิ เนื่องจากมีไขมันสูง ทำให้เกิดการอักเสบและทำให้เส้นเลือดรวมถึงท่อต่างๆในร่างกายตีบ อุดตัน
7. เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ เนื่องจากคาเฟอีนทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น รวมถึงทำให้ความเป็นกรดด่างในช่องคลอดเสียสมดุล ทำให้เกิดตกขาว และเสี่ยงต่อการติดเชื้อมากขึ้น
8. เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เนื่องจากทำให้เกิดอาการบวม อักเสบมากขึ้น
พออ่านมาถึงตรงนี้หมอเชื่อว่าหลายๆท่านต้องอุทานในใจว่า อาหารแสลงเยอะมาก แทบจะกินอะไรไม่ได้เลย แบบนี้จะกินอะไรดี ใช่ไหมคะ เพราะคนไข้หลายๆท่านที่มารักษา รวมถึงคุณฟ้าเองก็ได้สอบถามหมอเข้ามาเช่นกันว่า อาหารแสลงเยอะขนาดนี้ แล้วควรทานอะไรดี ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ ถึงแม้อาหารแสลงจะมีมาก แต่อาหารที่ทานได้ก็มีมากเช่นกันค่ะ หมอแนะนำให้ทานอาหารที่ดี เพื่อสุขภาพที่ดีและช่วยลดการอักเสบของต่อมบาร์โธลินค่ะ
1. ข้าวไม่ขัดสี และธัญพืชเต็มเมล็ดต่าง ๆ เช่น ข้าวกล้อง ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวแดง ข้าวหอมนิล ข้าวกล้องงอก รำข้าวสาลี ลูกเดือย ถั่ว 5 สี เม็ดบัว ข้าวโพด เป็นต้น เนื่องจากในจมูกข้าวของข้าวไม่ขัดสี และธัญพืชเต็มเมล็ดมีไฟโตนิวเทรียนท์ซึ่งทำหน้าที่ช่วยรักษาสมดุลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้เป็นปกติ
2. โปรตีนที่ช่วยซ่อมแซม ย่อยง่าย ได้แก่ ไก่ไม่ติดมัน ไข่ขาว ไข่แดง(ไม่เกิน 3 ฟองต่อสัปดาห์) ปลาทับทิม ปลาจาละเม็ด ปลาอินทรีย์สด ปลาตะเพียน ปลายี่สก ปลากระบอก ปลาม้า ปลากุเลา ปลาเห็ดโคน(ปลาทราย) ปลาแดงทะเล ปลาลิ้นหมา ปลาหางเหลือง Plant-Based Meat หรือเนื้อสัตว์เทียมที่ผลิตจากพืช เนื่องจากย่อยง่าย ให้โปรตีนที่ดี
3. ผักใบเขียว ผักต่างๆ เช่น ผักบุ้ง ผักกาดเขียว ผักชี ย่านาง บัวบก บร็อคโคลี่ กะหล่ำดอก กะหล่ำดาว กวางตุ้ง ผักกาดขาว ผักกาดหอม เนื่องจากมีคลอโรฟิลล์ เบต้าแคโรทีน และวิตามินอี ซึ่งมีสารช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงมีวิตามินซี ช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบของเนื้อเยื่อและเซลล์ในร่างกาย
4. ผลไม้ที่ช่วยลดการอักเสบ ได้แก่ องุ่น แอปเปิลแดง ลูกไหน ลูกพรุน ลูกเกด ลูกหม่อน (มัลเบอรี่) บลูเบอรี่ เชอรี่ แบล็กเบอรี่ ราสเบอรี่ สตรอเบอรี่ ฝรั่ง เนื่องจากมีสารแอนโทไซยานินสูง ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบในร่างกาย
เป็นอย่างไรบ้างคะ อาหารที่หมอแนะนำสามารถนำไปทำเมนูได้หลากหลายเลยใช่ไหมคะ หมอแนะนำปรุงสุกแบบต้ม ตุ๋น นึ่ง อบ ผัด จะดีต่อสุขภาพที่สุดค่ะ เมื่อดูแลสุขภาพ ควบคุมอาหารเป็นอย่างดี อาการต่อมบาร์โธลินอักเสบก็จะค่อยๆดีขึ้นนะคะ นอกจากนี้คุณฟ้ายังได้สอบถามวิธีการป้องกันการเป็นซ้ำของต่อมบาร์โธลินอักเสบ เพราะเป็นแล้วก็ไม่อยากเป็นซ้ำ และหมอเชื่อว่าทุกท่านที่เป็นต่อมบาร์โธลินอักเสบก็อยากหายสนิท ไม่มีใครอยากเป็นซ้ำอย่างแน่นอนค่ะ
การป้องกันโรคต่อมบาร์โธลินอักเสบสามารถทำได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
1. ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศทุกวัน เวลาอาบน้ำ หลังเข้าห้องน้ำ และหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยใช้น้ำสะอาดล้างภายนอกบริเวณปากช่องคลอด โดยเช็ดทำความสะอาดจากข้างหน้า(อวัยวะเพศ) ไปข้างหลัง(ทวารหนัก)
2. ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆทุกๆ 3-4 ชม. หรือเร็วกว่านี้หากผ้าอนามัยเต็มแล้วในช่วงของการมีประจำเดือน ไม่ควรปล่อยให้อวัยวะเพศอับชื้นเป็นเวลานาน เพราะจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อที่อวัยวะเพศได้ง่าย
3. สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย ไม่รัดแน่น ระบายอากาศได้ดี โดยเฉพาะกางเกงใน หรือ กางเกงนอกเพื่อป้องกันความอับชื้น และการเสียดสีที่อวัยวะเพศ
4. ดูแลสุขภาพ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง และดูแลความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ หากมีตกขาวผิดปกติที่เกิดจากการติดเชื้อ เช่น ตกขาวที่มีสีเขียว สีเหลือง มีอาการคัน และมีกลิ่น เพื่อลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ เนื่องจากสาเหตุหนึ่งของต่อมบาร์โธลินอักเสบคือเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย
สำหรับ 4 วิธีการนี้ สามารถนำไปใช้ป้องกันได้ทั้งกับท่านที่เคยเป็นต่อมบาร์โธลินอักเสบมาแล้ว และท่านที่ยังไม่เคยมีอาการเลยนะคะ เพราะการป้องกันโรคนั้นย่อมดีกว่าการรักษาค่ะ
โดยปกติแล้วต่อมบาร์โธลินอักเสบสามารถหายเองได้ โดยจำเป็นต้องรับการรักษาอย่างถูกวิธี เพื่อไม่ให้อาการลุกลามมากขึ้นและเพื่อป้องกันการเป็นซ้ำในอนาคตค่ะ
สามารถรักษาด้วยตนเองได้ แต่ควรอยู่ในการดูแลของหมอหรือผู้เชี่ยวชาญ เพื่อความปลอดภัยรวมถึงรักษาได้อย่างถูกต้องตามหลักการที่ควรจะเป็นค่ะ
การรักษาด้วยตัวเองด้วยตำรับยาสมุนไพร จึงเป็นทางเลือกสำหรับ:
-ท่านที่ไม่ต้องการผ่าตัด
-ไม่อยากใช้ยาเคมีหรือยาฆ่าเชื้อนานๆ เพราะ ทานแล้วอาการก็ไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร
-ไม่อยากไปโรงพยาบาลบ่อยๆ
การใช้ตำรับยาสมุนไพรรักษาและรักษาด้วยวิธีธรรมชาติ เป็นการรักษาที่ต้นเหตุของอาการ เพราะต้นเหตุของต่อมบาร์โธลินอักเสบ เกิดจากการอุดตัน ซึ่งมาจากการที่เลือด น้ำเหลือง เมือกบริเวณต่อมบาร์โธลินไหลเวียนไม่ดี พอของเหลวคั่งค้าง รวมตัวกันนานเข้าก็ทำให้ลมในร่างกายไหลเวียนไม่ได้ เกิดเป็นอาการบวม พอเลือด ลมไหลเวียนไม่ได้ก็เกิดการสะสมของความร้อนทำให้เกิดการอักเสบ แดง ปวด
ตัวตำรับยาสมุนไพรจึงเป็นการรักษาที่ตอบโจทย์ เพราะไม่ใช่แค่ลดการอักเสบ และ ฆ่าเชื้อเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด น้ำเหลือง เมือก รวมไปถึงของเหลวต่างๆ ทำให้ของเสียที่สะสมอยู่บริเวณต่อมบาร์โธลินขับออกได้ตามธรรมชาติ ทำให้อาการปวด บวม อักเสบลดลงจนกลับมาเป็นปกติพร้อมเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และ ช่วยเสริมสร้างน้ำเหลืองใหม่ที่ดี เพื่อช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อสิ่งสกปรก มีส่วนช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli (E.coli) แบคทีเรีย Neisseria Gorrhoese ที่ทำให้เกิดโรคหนองในแท้ และแบคทีเรีย Chlamydia trachomatis ที่ทำให้เกิดโรคหนองในเทียม
ซึ่งในกรณีของคุณฟ้าก็แจ้งหมอว่าไม่สะดวกที่จะไปพบคุณหมอที่โรงพยาบาลในต่างประเทศ และ ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากพักฟื้น จึงเลือกรับยาสมุนไพรไปใช้รักษาแทนค่ะ
ตำรับยาสมุนไพรรักษาต่อมบาร์โธลินอักเสบ Bartho set ของปุณราดายาไทยประกอบด้วยตัวยา 2 ตำรับ ได้แก่
ส่วนประกอบ : ต้นพลูคาว หัวข้าวเย็นเหนือ หัวข้าวเย็นใต้ หัวร้อยรู เหงือกปลาหมอ และสมุนไพรอื่นๆ
สรรพคุณ : แก้น้ำเหลืองเสีย
เวลาที่ระบบน้ำเหลืองดี ร่างกายจะสามารถขับของเสีย เชื้อแบคทีเรีย สิ่งสกปรกออกจากร่างกายได้ตามธรรมชาติ จึงทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง ช่วยลดการอักเสบ ส่งผลให้อาการปวด บวม แดง เจ็บลดลงจนกลับมาเป็นปกติ
ส่วนประกอบ : พญายอ ใบบัวบก ดีเกลือ เกลือเม็ด กลีเซอรีน และสมุนไพรอื่นๆ
สรรพคุณ : ผ่อนคลายร่างกาย มีส่วนช่วยลดการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ
พอร่างกายผ่อนคลาย เส้นเอ็น กล้ามเนื้อที่แข็งเกร็งจากการอักเสบก็จะค่อยๆคลายตัวลง ช่วยกระจายเลือดลมที่ไหลเวียนได้ไม่ดี ลดอาการอักเสบ ปวด บวม เจ็บ ที่ต่อมบาร์โธลิน ทำให้ของเสียขับออกมาได้ดีมากขึ้น เมื่อใช้ควบคู่กับยารับประทาน
เมื่อหมอแนะนำชุดการรักษา Bartho set ไป คุณฟ้าตกลงสั่งซื้อชุดสมุนไพรสำหรับใช้ต่อเนื่อง 2 เดือน และให้จัดส่งไปให้ที่ต่างประเทศ หลังจากที่คุณฟ้าได้รับยาและเริ่มใช้ยาแล้วได้รายงานผลการรักษาให้หมอทราบเป็นระยะ เมื่อใช้สมุนไพรได้ 5 วัน คุณฟ้าแจ้งหมอว่า
“ตอนนี้ต่อมขับของเสียออกมาเป็นที่เรียบร้อยค่ะ ตกใจ ตื่นมานึกว่าเป็นประจำเดือนค่ะ ดีใจมากๆเลยค่ะ ไม่ต้องทนปวดแล้ว”
พอหมอได้ทราบดังนี้ก็ดีใจไปกับคุณฟ้ามากเลยค่ะ เพราะการที่ต่อมบาร์โธลินอักเสบแตกออกเอง ถือเป็นการระบายของเสียจะเร็วกว่าตอนที่ยังไม่แตก ทำให้อาการหายได้เร็ว หมอจึงแนะนำให้คุณฟ้าทานยาสมุนไพรและแช่ยาสมุนไพรต่อเนื่องไปจนอาการหายดี รวมถึงให้ล้างแผลด้วยน้ำเกลือ เช็ดทำความสะอาดให้แห้ง ใส่แผ่นอนามัยเพื่อรองรับเลือดและของเสียที่ระบายออกมา และเปลี่ยนแผ่นอนามัยทุกๆ 1-2 ชั่วโมงค่ะ
เมื่อใช้สมุนไพรได้ 14 วัน หมอได้ส่งข้อความไปติดตามอาการทางไลน์อีกครั้ง คุณฟ้าแจ้งหมอว่า
“ดีขึ้นมากๆเลยค่ะคุณหมอ ตอนนี้ไม่มีเลือด เมือก หรือของเสียออกมาแล้ว คลำไปไม่มีก้อนอะไรเลยค่ะ เมื่อก่อนที่จะกินสมุนไพรปกติจะมีก้อนตลอดเวลา แต่ตอนนี้ไม่มีเลยค่ะ ขอบคุณมากๆเลยนะคะ :)”
และนี่ก็เป็นสิ่งที่หมออยากได้ยินได้อ่านจากคนไข้มากที่สุด เพราะข้อความที่แจ้งมาดังนี้นั้นหมายความว่าอาการหายสนิทดีแล้วนั่นเองค่ะ เมื่ออาการหายสนิทดีแล้วหมอจึงได้แนะนำวิธีการปรับลดยาให้กับคุณฟ้าก่อนที่จะให้หยุดยา เพื่อให้ร่างกายได้ปรับตัว ฟื้นฟูอาการ และป้องกันการเป็นซ้ำนั่นเองค่ะ ท่านผู้อ่านจึงไม่ต้องกังวลว่าทานตำรับยาสมุนไพรแล้วจะจะอันตรายต่อตับ และไตไหมนะคะ เพราะการจ่ายยาหมอจะประเมินตามความเหมาะสม มีการสอบถามข้อมูลสุขภาพก่อนจ่ายยา และปรับลดยาพร้อมวางแผนหยุดยาให้คนไข้ทุกเคส จึงไม่ต้องทานตำรับยาไปตลอด ที่สำคัญการรักษาต่อมบาร์โธลินอักเสบกับปุณรดายาไทย จะไม่ได้เพียงจ่ายยา แต่เรายังมี การดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้งเรื่องของวิธีการดูแลสุขภาพที่ออกแบบเฉพาะบุคคลสำหรับผู้ที่อาการต่อมบาร์โธลินอักเสบ อาหารที่ควรทาน และ ควรงด อาหารแสลง อาหารที่ส่งผลโดยตรงต่ออาการต่อมบาร์โธลินอักเสบ แนะนำให้แบบรายบุคคล พร้อม ทีมแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่ได้รับใบประกอบโรคศิลปะจากสภาการแพทย์แผนไทยคอยดูแล ตอบคำถามทุกเคสโดยคุณหมอ ตั้งแต่ 09.00-21.00 น. ทุกวันไม่มีวันหยุด เพราะ ความเจ็บป่วย รอไม่ได้
หากท่านใดที่กำลังมีอาการต่อมบาร์โธลินอักเสบอยู่ และต้องการรักษาอาการให้หายสนิทด้วยวิธีธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี รักษาด้วยตำรับยาสมุนไพรแบบคุณฟ้า หมอยินดีให้คำปรึกษาและจัดยาให้ตามอาการที่เป็น และยินดีให้คำแนะนำรวมถึงดูแลจนอาการหายสนิทค่ะ มาดูแลสุขภาพให้แข็งแรงไปด้วยกันนะคะ
ปุณรดายาไทยมีผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพรและทีมแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์ที่มีประสบการณ์ยินดีให้คำปรึกษาสำหรับการใช้สมุนไพรรักษาอาการต่อมบาร์โธลินอักเสบโดยเฉพาะค่ะ
เมื่อไหร่ที่คุณมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการดูแลสุขภาพ และต้องการทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งมากขึ้นด้วยศาสตร์ธรรมชาติ ที่นำเอาการแพทย์แผนไทยมาประยุกต์ใช้ นึกถึงปุณรดายาไทยนะคะ เพราะเราคือ “แพทย์แผนไทยที่อยู่ใกล้คุณที่สุด”
#ต่อมบาร์โธลินอักเสบ #รักษาต่อมบาร์โธลินอักเสบ #รักษาต่อมบาร์โธลินอักเสบด้วยตัวเอง
#ปุณรดายาไทย #ปุณรดายาไทยแพทย์แผนไทยที่ใกล้คุณที่สุด
ปุณรดายาไทยเชี่ยวชาญด้านสมุนไพร และการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถปรึกษาปุณรดายาไทยได้นะคะ ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ
สามารถปรึกษากับพวกเรา Poonrada Yathai ได้เสมอนะคะ (ปรึกษาฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายค่ะ)
LINE ID: @Poonrada
TEL: 02-1147027
ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร
"สมุนไพร คือ ของขวัญจากธรรมชาติ เราจึงตั้งใจมอบสมุนไพรที่ดีที่สุด ให้ถึงมือคุณ"
แพทย์แผนไทย
" ความมั่งคั่งที่แท้จริง จะเกิดขึ้นได้ เมื่อเรามีสุขภาพกายและใจที่ดี สมดุล แข็งแรง "